วันอาทิตย์ ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 16:30 น.

ภูมิภาค

ชาวบ้านนาดีรวมตัวขุดกลอย เตรียมงานประเพณี "ตักบาตรทำบุญกินกลอย" เดือนสิบ 10 หนึ่งเดียวในประเทศ

วันจันทร์ ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2567, 19.44 น.

วันที่ 23 ก.ย.67 ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรีรายงานว่า  ได้รับแจ้งจากองค์การบริหารส่วนตำบลนาดี ( อบต.)  ที่วัดด่านตะกั่ว ม.14 ต.นาดี อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ผู้นำท้องถิ่นท้องถิ่นกำนัน – ผู้ใหญ่บ้าน ,องค์การบริหารส่วนตำบลนาดี ( อบต.)  ,พระสงฆ์ และ ชาวบ้านร่วมกัน สืบสานประเพณีท้องถิ่น 1 เดียวในประเทศไทย การทำบุญ – กินกลอย  โดยในระหว่างนี้  จะพากันไปหาขุดกลอยในป่าชุมชน เพื่อที่จะเตรียมนำมาทำบุญงานบุญประเพณี "ตักบาตรทำบุญกินกลอย" ซึ่งเป็นประเพณีสืบทอดกันมาจากรุ่นพ่อแม่จนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นประจำทุกๆปีในช่วงปลายเดือนกันยายน – ตุลาคม อันเป็นเทศกาลต่อจากประเพณีสารทเดือนสิบ

ที่จะ มีการทำบุญประเพณีในหมู่บ้านซึ่งเป็นงานบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง ในงานบุญดังกล่าวจะมีชาวบ้านและเพื่อนบ้านใกล้เคียงมาร่วมทำบุญตักบาตร ซึ่งจะมีผู้คนมาร่วมทำบุญที่วัดนี้เป็นจำนวนมาก เจ้าอาวาสและกรรมการวัดสมัยนั้นลงความเห็นกันว่า การที่มีญาติโยมมาร่วมทำบุญกันเป็นจำนวนมาก ข้าวปลาอาหารอาจจะไม่เพียงพอเลี้ยงญาติโยมที่มาร่วมทำบุญ จึงมีแนวความคิดว่าในหมู่บ้านนี้มีป่าชุมชนอยู่ใกล้กับอุทยานแห่งชาติใหญ่มรดกโลก  และมีกลอย   ซึ่งขึ้นอยู่ในป่าตามธรรมชาติ   โดยที่ชาวบ้านไปขุดหัวกลอยในป่าชุมชนข้างหมู่บ้าน นำมานึ่งและนำมาทำบุญเป็นประจำ จึงหารือกันว่าน่าจะนำเอาหัวกลอยมาเป็นเมนูอาหารพื้นบ้านโดยไม่ต้องซื้อหา จึงไปขุดกลอยนำมาปรุงเป็นเมนูอาหารพื้นบ้าน กลอยนึ่งคลุกมะพร้าวโรยน้ำตาลทราย ใส่งา แค่นี้ก็เป็นเมนูอาหารพื้นบ้านที่หากินได้ยากแล้ว

กลอย เป็นพืชตระกูลเผือกมัน 1 ปีจะมีหัวให้ได้กินเพียงหนึ่งครั้งในช่วงเดือนกันยายนของทุกปี วิธีการขุดกลอยชาวบ้านจะรวมตัวกันไปขุดกลอยที่ขึ้นอยู่ในป่า ซึ่งกลอยมีอยู่ 2 ชนิดคือกลอยข้าวเหนียวและกลอยข้าวเจ้า ลักษณะจะแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด กลอยข้าวเหนียวจะมีสีเหลือง กลอยข้าวเจ้าจะมีสีขาว หลังจากที่หัวกลอยที่ขึ้นอยู่ในดินลึกประมาณ 10 เซนติเมตร แล้วก็จะเครือทิ้งใช้เสียงขุดหัวกลอยขึ้นมาแล้วจะเอาส่วนโคนเถาเครือฝังดินไว้ เพื่อที่จะให้กลอยงอกแตกกอขึ้นมาใหม่ ต้นกลอยหนึ่งต้นจะมีหัวประมาณ5-6หัว แต่ละหัวเข้าลูกมะพร้าว ซึ่งจะสังเกตต้นกลอยต้นไหนจะมีหัวใหญ่ให้สังเกตเถาต้นกลอย ถ้าเถาหรือต้นกลอยใหญ่ขนาดเท่านิ้วชี้และนิ้วโป้ง หัวจะใหญ่น้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 2 กิโลกรัม หลังจากขุดเอาหัวกลอยขึ้นมาแล้วจะนำกองไว้ แล้วจะปลอกเปลือกใส่ถุงแล้วใส่รถนำออกมาจากป่ามาล้างน้ำทำความสะอาด จากนั้นจะใช้มีดหั่นหัวกลอยเป็นชิ้นๆบางๆนำไปแช่น้ำใส่เกลือ โดยจะคำนวณเอาคร่าวๆให้เกลือมีความเข้มในอัตราส่วนเศษ 2 ส่วน 3 หากใส่เกลือมากไปหากนำกลอยมานึ่งลุงเป็นทหาร กลอยจะแข็งกระด้างไม่นุ่มเหนียวไม่ชวนกิน

นายวัชรพล ศรีอวน นายกอบต.นาดี กล่าวว่า พี่น้องประชาชนได้ร่วมกันออกไปขุดกลอย ในป่าชุมชนซึ่งกลอยจะมีทั้งกลอยข้าวเหนียวกับกลอยข้าวเจ้า กลอยสีเหลืองเรียกว่ากลอยเข้าเหนียว ส่วนกลอยสีขาวเรียกว่ากลอยข้าวเหนียว หลังจากหั่นแล้วจะนำพลอยมาแช่น้ำเกลือทิ้งไว้3-4 คืน แล้วก็จะนำไปแช่น้ำเปล่าอีกในระยะ3-4คืนก็สามารถนำมาเป็นเมนูอาหารพื้นบ้านได้แล้ว และ ขอเชิญชวนให้น้องประชาชนมาเที่ยวงานบุญที่วัดด่านตะกั่วในวันที่ 6 ตุลาคม 2567  ที่จะถึงนี้   ร่วมงานบุญจากกลอยฟรี

ในการนำกลอยแช่น้ำเกลือนั้นเพื่อเป็นการให้ความเค็มของเกลือ กัดสารมึนเมาในหัวกลอยออกให้หมด โดยจะแช่น้ำเกลือในอ่างหรือภาชนะไว้ 3-4 คืน ถ้าจะดูเนื้อกลอยนุ่มมือก็จะตักก่อนขึ้นจากน้ำเกลือ จากนั้น นำกลอยทั้งหมดไปแช่น้ำเปล่าไว้อีก 3-4 คืน จึงจะสามารถนำกลอยมาปรุงเป็นเมนูอาหารได้ โดยจะเตรียมกลอยทั้งหมดขึ้นจากน้ำและเก็บไว้ เพื่อรอนำกลอยมาทำบุญประเพณีตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งในวันงาน 6 ตุลาคม 2567 ที่จะถึงนี้

ซึ่งในวันงานจะนึ่งกลอยแจกจ่ายให้กับผู้ที่มาร่วมงานบุญ ซึ่งในแต่ละปีจะขุดหัวกลอยสดมาเตรียมทำงานบุญไม่ต่ำกว่า 2ตัน หลังจากกลอยแห้งแล้วจะเหลือน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 1 ตัน และจะนำมาทำบุญถวายพระในวันงานและแจกจ่ายให้กับญาติโยมได้กินกันอย่างถ้วนหน้า 1 ปีมีแค่ครั้งเพียงครั้งเดียว

หน้าแรก » ภูมิภาค