เมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 24 ก.ย.67 พ.ต.ท.กฤชฐา ปทุมแก้ว สารวัตรสอบสวนสภ.สามโคก ได้รับแจ้งเหตุสุนัขพิทบูลกัดคนเสียชีวิตภายในซอยไม่มีชื่อ ม.1 ต.เชียงรากน้อย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี จึงไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจสภ.สามโคก แพทย์นิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เจ้าหน้าที่มูลนิธิปอเต็กตึ้ง
 

ที่เกิดเหตุพบเจ้าหน้าที่กู้ภัยและและรถกู้ชีพโรงพยาบาลสามโคกกำลังปั้มหัวใจผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตในเวลาต่อทราบชื่อนางสาวแดง ธรรมทันตา อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42 ม.1 ต.เชียงรากน้อย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี สภาพศพถูกสุนัขกัดเป็นแผลฉกรรจ์เกือบทั้งตัว ห่างจากผู้เสียชีวิตประมาณ 1 กิโลเมตร พบคราบเลือดจำนวนมากอยู่บนถนนและรถจักรยาน 1 คันล้มอยู่ริมถนนใกล้ร่องสวนพร้อมทั้งมีคราบเลือดอยู่บนจักรยานด้วย

จากการสอบถามนางประเทือง นาคประดิษฐ์ อายุ 76 ปี บอกขณะนั้นตนเองได้ยินเสียงหมากัดกันตนเองจึงเดินมาดูก็เห็นอะไรตะคุ้มอยู่พอเข้าไปใกล้ๆ ตนเองก็สงเสียงถามว่าไครว่ะน่ะ ป้าแก้ว (ผู้เสียชีวิต) ก็บอกว่าฉันเองถูกหมากัดซึ่งก็เห็นว่าหมาพิทบูลขย้ำใหญ่เลย ซึ่งหมาตัวนี้ก็อยู่ในบ้านทุกวันแต่มันไม่กัดฉัน ฉันก็เรียกว่าบลูมานี่และตนเองก็จับเชือกที่คอไว้พร้อมทั้งตะโกนเรียกลูกชายป้าแก้วและบอกว่ามาช่วยหน่อยหมากัดแม่มึง ลูกชายเขาจึงรีบมาดูและอุ้มแม่มาตรงถนนในซอยดังกล่าว 

ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปบ้านหลังหนึ่งอยู่ใน ต.เชียงรากน้อย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี พบสุนัขเพศผู้พันธ์พิทบูลอยู่ในกรงข้างบ้านรวมกับหมาพันธ์ไทย ด้านนางเกียรติกนก (สงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี เจ้าของสุนัขพิทบูลบอกว่าหมาตัวนี้ชื่อโป้ยก่ายลูกสาวคนโตเอามาเลี้ยงได้ 5 ปี แล้ว เป็นเพศผู้ซึ่งเลี้ยงไว้กับหมาไทยรวม 7 ตัว ปกติแล้วไม่เคยกัดใครพึ่งจะมากัดได้ไม่นานนี่เอง ซึ่งกัดลุงที่เป็นญาติกันไป 2 คน และลูกสาวคนเล็กก็ถูกกัดได้ไม่นาน และยังไปล้างแผลทุกวัน ปกติแล้วจะเอาโป้ยก่าย (ชื่อสุนัข) ไปนอนด้วย พึ่งมาดุเมื่อนี่เอง ซึ่งหมาไทยจะเป็นตัวนำก่อนปล่อยช่วงเช้าตอนตี 2 เพื่อเอาไปขี้ไปเยี่ยวและก็มีเชือกจูงและอยากให้วอสด๊อกมารับตัวไปดูแลต่อเพราะไม่อยากเลี้ยงแล้วดูแลไม่ไหว และที่มันออกไปวันนี้มันคงกระโดดออกจากกรงไป ส่วนนางสาวญาดารัตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 17 ปี ลูกสาวเจ้าของหมาพิทบูลบอกว่าสุนัขตัวนี้พี่สาวเอามาเลี้ยงและโดนกัดเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ส่วนประทีป (สงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี บอกว่าตนเองก็เคยโดนหมาตัวนี้กัดแต่นานแล้วที่ก้น

ด้านนายบุญทวี มากผ่อง อายุ 41 ปี ลูกชายผู้เสียชีวิตบอกว่าซึ่งบ้านตน กับบ้านที่มีหมาพิทบูลนี้ห่างกันประมาณ 100 เมตร ตนเองอยู่กับแม่กับพี่ชายรวม 3 คน ซึ่งหมาตัวนี้ก็ดุอยู่และไม่ควรปล่อยออกมา
  

ด้าน พ.ต.ท.กฤชฐา ปทุมแก้ว สารวัตรสอบสวนสภ.สามโคก หลังจากตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้วจึงบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน และได้ให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิปอเต็กตึ้งนำผู้เสียชีวิต ส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เพื่อตรวจสอบอีกครั้ง