เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 27 กันยายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การโอนเงินวันที่ 3 เงิน 10,000 บาท  สำหรับผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีเลขประจำตัวประชาชนหลักสุดท้าย เลข 4-7  บรรยากาศ ที่ธนาคารธ.ก.ส. สาขาศรีสะเกษ อำเภอเมืองฯ จังหวัดศรีสะเกษ ปรากฏว่า มีประชาชนที่ได้รับสิทธิ์เงิน 10,000 บาท ตามโครงการของรัฐบาล มายืนต่อแถวยาวเกือบถึงสี่แยกไฟแดงระยะทางเกือบ 100 เมตร เพื่อมารอเบิกถอนเงินสดจากตู้เอทีเอ็มของธนาคาร โดยบางส่วนก็มาปรับสมุดบัญชีเพื่อตรวจสอบยอดเงินว่ามีการโอนเข้าบัญชีแล้วหรือไม่ ท่ามกลางสภาพอากาศแสงแดดที่ร้อนอบอ้าว  ประชาชนส่วนมากต้องนำเสื้อมาคลุมโปง บ้างก็นำหมวกมาปิดหน้าเพื่อปกป้องความร้อนจากแสงแดด ด้วยความหวังว่าในการที่มารอรับเงิน 10,000 บาท จากรัฐบาล

ขณะเดียวกัน ได้มีพ่อค้าแม่ค้า นำสินค้ามาวางขาย ไม่ว่าจะเป็นสินค้าเบ็ดเตล็ดทั่วไป ร้านขายน้ำ ร้านขายผลไม้ ร้านหาบเร่ต่างๆ ซึ่งพ่อค้าแม่ค้าต่างก็ยิ้มด้วยความดีใจ เนื่องจากว่าสามารถขายของได้มากกว่าในช่วงปกติที่ผ่านมา และอยากให้มีโครงการแบบนี้ไปนานๆ เพราะนอกจากว่าประชาชนจะได้รับเงิน 10,000 บาท จากรัฐบาลแล้ว ก็ยังมาซื้อสินค้าจากพ่อค้าแม่ค้า ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นถึงเท่าตัวอีกด้วย

นางสมศรี ชิณวงศ์ อายุ 64 ปี แม่ค้าขายน้ำและกาแฟโบราณ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ช่วงนี้ตนสามารถขายน้ำได้มากกว่าปกติถึงเท่าตัว  ถือเป็นเรื่องที่ดีเป็นอย่างมาก ดีกว่าไม่มีโครงการแบบนี้เลย เพราะที่ผ่านมาตนจะขายน้ำค่อนข้างยากและไม่มีลูกค้า แต่พอมีโครงการแบบนี้ขึ้นมา ประชาชนที่ต้องมารอเบิกถอนเงินสด พอได้เงิน 10,000 บาทแล้ว ก็จะมาซื้อน้ำของตนเพื่อทาน หรือแม้กระทั่งประชาชนที่มารอต่อแถวเพื่อถอนเงิน 10,000 บาท  ก็ต้องมาซื้อน้ำทาน ด้วยสภาพอากาศที่ร้อน และการรอคอยที่ระยะเวลาค่อนข้างนาน เนื่องจากมีคนจำนวนมาก ก่อนหน้าที่จะมีโครงการแจกเงิน 10,000 บาท ของรัฐบาล ตนขายน้ำได้เพียงวันละประมาณ 400 -–500 บาท แต่หลังจากมีโครงการนี้เข้ามาทำให้ยอดขายตนพุ่งถีงวันละ 1,000 – 2,000 บาท อยากให้มีโครงการนี้ไปนานๆเพื่อเป็นการสร้างรายได้ให้กับชาวบ้าน ให้กับตนที่ขายน้ำ เพื่อเอาเงินไว้เป็นค่าเทอมให้กับหลานด้วย