วันที่ 1 ต.ค.67 บรรยากาศวันจ่ายวันสารทเดือนสิบ ครั้งที่ 2 ที่ หน้าตลาดสดเทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา  ประชาชนต่างออกมาจับจ่ายซื้อขนมเดือนสิบกันอย่างคึกคัก  โดยบรรดาพ่อค้า –แม่ค้า ต่างนำขนมเดือนสิบมาวางจำหน่ายให้ประชาชนได้เลือกซื้อ ทั้งขนมลา ขนมต้ม ขนมเจาะหู ขนมพอง ขนมบ้า และขนมเทียน เพื่อเตรียมนำไปใช้ในการทำบุญวันสารทเดือนสิบบุญ ครั้งที่ 2 หรือที่เรียกว่าทำบุญใหญ่ส่งตายายที่วัดในวันพรุ่งนี้

สำหรับราคาขนมเดือนสิบ ครั้งที่ 2 ในวันนี้ราคาก็คงอยู่ที่ราคาเดิมเหมือนช่วงทำบุญครั้งแรก ถึงแม้ว่าราคาต้นทุนสินค้าในการผลิต โดยเฉพาะน้ำตาล แป้ง มะพร้าว และข้าวเหนียว จะปรับราคาสูงขึ้น แต่ทางพ่อค้า – แม่ค้า ยังคงไม่ปรับราคาขึ้น เพื่อเป็นการร่วมสืบสานประเพณีของชาวภาคใต้

ด้านแม่ค้าขายขนมเดือนสิบที่ตลาดสดเทศบาลเมืองเบตง กล่าวว่า ปีนี้มีชาวเบตงออกมาซื้อขนมเดือนสิบเพื่อเตรียมไว้ใช้ทำบุญในวันสารทเดือนสิบ หรือทำบุญใหญ่ในวันพรุ่งนี้ เพราะประชาชนต่างอยู่ในช่วงกำลังฟื้นตัว แต่หลังจากได้เงินหมื่นที่รัฐบาลแจก ก็ทำให้ประชาชนมีกำลังมาซื้อเพิ่มขึ้นจากเดือนสิบครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา เพราะทุกคนต่างประสบปัญหาเศรษฐกิจ สินค้าอุปโภคบริโภคขึ้นราคา ส่วนแม่ค้าปีนี้วัตถุดิบที่นำมาทำขนมเดือนสิบปรับขึ้นราคาเกือบทุกอย่าง ปีนี้จึงเหลือแม่ค้าไม่มากที่มาจำหน่ายขนมเดือนสิบเหมือนปีที่ปีที่ผ่านมา โดยในวันนี้ที่หน้าตลาดสดเทศบาลเมืองเบตง ทั้งแม่ค้า –พ่อค้าและคนซื้อเต็มไปหมดคิดว่าเงินหมื่นส่วนหนึ่งเป็นแรงผลักดันให้คนมีกำลังซื้อ

สำหรับราคาของขนมเดือนสิบปีนี้ยังไม่ปรับราคา ยังคงขายในราคาเดิมของปีที่แล้ว แม้ปีนี้ราคาวัตถุดิบในการทำขนมขยับเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งขนมเดือนสิบส่วนใหญ่ทำมาจากแป้งข้าวเหนียว และวัตถุดิบอื่นก็ปรับราคาเช่นกัน ขนมที่จะต้องใช้ในเดือนสิบ แม่ค้าจะจัดแบ่งขายเป็นถุงๆ ไว้ด้วย รวมทั้งขนมพอง ขนมลา ซึ่งจะทำแบบรวมขนมเดือนสิบเป็นถุง ถุงละ 20-30-40 และ 50 บาท เพื่อให้ประชาชนได้เลือกซื้อตามความต้องการ

สำหรับประเพณีสารทเดือนสิบจะมีขึ้น 2 ครั้ง คือ ในวันแรม 1 ค่ำเดือน 10 หรือวันรับตายาย และวันแรม 15 ค่ำเดือน 10 หรือวันส่งตายาย ประชาชนส่วนใหญ่จะนิยมมาทำบุญกันมากในการทำบุญครั้งที่ 2 ถือเป็นการทำบุญใหญ่คือ วันแรม 15 ค่ำ เดือน 10

ขณะที่ความหมายของขนมเดือนสิบ “ขนมลา” มีความหมายใช้แทนเสื้อผ้าที่อุทิศให้เปรตชน หรือบางคนเชื่อว่าเส้นของลาเล็กๆ ทำเปรตกินได้ เพราะเชื่อว่าเปรตมีปากเล็กเท่ารูเข็ม “ขนมพอง” มีความหมายใช้แทนเป็นเครื่องประดับมีสีสันสวยงาม “ขนมดีซำ” หรือขนมเจาะหู มีความหมายใช้แทนเงินทอง เพราะมีลักษณะกลมเจาะรูตรงลางคล้ายกับเงินสตางค์ที่มีรูตรงกลาง ซึ่งใช้กันในสมัยก่อน “ขนมบ้า” มีความหมายใช้แทนเงินเหรียญเพราะมีลักษณะเป็นแผ่นกลมคล้ายเหรียญ และ “ขนมเทียน” มีความหมายใช้แทนหมอน