วันพุธ ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2568 05:50 น.

ภูมิภาค

อลังการ! นทท.นับแสนแห่ชมไหลเรือไฟหนึ่งเดียวในโลก อ.โพนสวรรค์-อ.ศรีสงคราม คว้าแชมป์ เงินสะพัดกว่า 600 ล้าน

วันศุกร์ ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2567, 17.32 น.

คืนเดือนเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ตรงกับวันที่ 17 ตุลาคม 2567 ซึ่งเป็นวันออกพรรษา ที่ จ.นครพนม เมื่อคืนที่ผ่านมา ตลอดแนวริมฝั่งน้ำโขง ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม เนืองแน่นไปด้วยประชาชน นักท่องเที่ยว ต่างหลั่งไหลมาชื่นชมความสวยงามของการประกวดเรือไฟยักษ์ ซึ่งมีเพียงหนึ่งเดียวในโลก จากผลงานการสรรค์สร้างของบรรดาศิลปินเรือไฟทั้ง 12 อำเภอรวม 12 ลำ บางลำมีขนาดความยาวมากกว่า 80 เมตร ความสูงเกือบ 40 เมตร ประดับตกแต่งด้วยตะเกียงไฟโบราณ มากกว่า 20,000 – 30,000 ดวง แต่ละลำทุ่มทุนสร้างมากกว่า 5 แสนถึงล้านบาท ทั้งนี้การออกแบบลวดลายส่วนใหญ่ จะเน้นเชิดชูสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของ จ.นครพนม สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับประชาชน นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยมีเรือไฟส่งเข้าประกวด รวม 2 ประเภท คือ 1.ความสวยงาม 2.ความคิดสร้างสรรค์

สำหรับผลรางวัลการประกวดไหลเรือไฟ รางวัลชนะเลิศเรือไฟประเภทความสวยงาม คือ เรือไฟของ อ.โพนสวรรค์ ถือเป็นแชมป์เก่าที่สามารถรักษาแชมป์ไว้ได้ จากข้อมูลพบว่าเรือไฟ อ.โพนสวรรค์ ได้ครองแชมป์เรือไฟมากว่า 20 ปี  ส่วนรางวัลชนะเลิศ เรือไฟประเภทความคิดสร้างสรรค์ เป็นเรือไฟของ อ.ศรีสงคราม โดยทางศิลปินเรือไฟทั้ง 12 อำเภอ ต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวกัน ว่า ไม่เน้นค่าจ้างรางวัล ถึงแม้จะทุ่มทุนสร้างนับล้านบาท แต่ได้รางวัลชนะเลิศประมาณ 70,000 บาท สิ่งสำคัญคือการได้แสดงออกถึงการร่วมแรงร่วมใจกันสร้างเรือไฟ สืบสานประเพณี  อันยิ่งใหญ่ของ จ.นครพนม ให้ยั่งยืนตลอดไป

ขณะเดียวกันภาพรวมตัวเลขเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของ จ.นครพนม ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา พบว่าการท่องเที่ยวเส้นทางสายมู ถือว่ามาแรงแซงทางโค้งมากที่สุด เนื่องจากมีองค์พระธาตุพนม รวมถึงพระธาตุประจำวันเกิดรวม 8 พระธาตุ ประดิษฐานอยู่ตามพื้นที่อำเภอต่างๆ  นอกจากนี้ยังมีองค์พญาศรีสัตตนาคราช แลนด์มาร์กชื่อดังอันศักดิ์สิทธิ์ อีกทั้งยังมีความสวยงามด้านทัศนียภาพสองฝั่งโขงไทยลาว นครพนมจึงเป็นจังหวัดชายแดนอีสาน ที่มีประชาชน นักท่องเที่ยว ให้ความสนใจมาสัมผัสกันคึกคัก และอยู่อันดับต้นๆของภาคอีสาน

จากข้อมูลเศรษฐกิจการท่องเที่ยว พบว่า ในช่วงปีที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว จากประมาณ 5-6 แสนคนต่อปี เพิ่มเป็นเกือบ 2 ล้านคนต่อปี มีเงินหมุนเวียนสะพัดรอบปีที่ผ่านมามากกว่า 600 ล้านบาท และกำลังผลักดันให้ จ.นครพนม จากการเป็นเมืองรองสู่เมืองหลัก คาดจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการในเร็วๆนี้

หน้าแรก » ภูมิภาค