วันที่ 20 ต.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุการณ์ช็อคทั้งพระและโยม หลังจากฝ้าศาลาการเปรียญถล่ม เหตุเกิดเมื่อเวลา 16.00 น.ของวันที่ 19 ต.ค.67 ที่ผ่านมา ที่วัดป่านาดอน ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี ขณะที่พระกำลังรับกิจนิมนต์กับญาติโยม ปรากฏว่า ฝ้าเพดานของศาลาการเปรียญเกิดพังถล่มลงมาทั้งพระและโยมต่างพากันวิ่งหนีตายหลบกันอย่างชุลมุน เบื้องต้นพระสงฆ์และโยมไม่ได้รับบาดเจ็บแต่ฝ้าเพดานเสียหายมาก หลังเกิดเหตุพระและชาวบ้านช่วยกันขนย้ายฝาเพดานออกเป็นที่เรียบร้อยและวางแผนติดตั้งฝ้าเพดานใหม่ให้คงทนและแข็งแรง

ต่อมาผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ไปยังจุดที่เกิดเหตุเพื่อสอบถามเหตุการณ์ โดยมีพระมหาอุทัย คำชาลี อายุ 62 ปี เจ้าอาวาส และผู้นำชุมชนพาตรวจดูจุดที่ฝ่าเพดานถล่ม ทุกคนทั้งพระและโยมยังพากันตกใจไม่หายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และถือว่ายังดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเป็นอะไรมาก

พระมหาอุทัยฯ เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุมีญาติโยมจะมาถวายปัจจัยร่วมกฐิน ซึ่งปัจจัยนั้นมาจากวัดพระธรรมกาย ขณะกำลังทำพิธีกล่าวคำถวาย ปรากฎว่านกพิราบบินอยู่ใต้หลังคาศาลาการเปรียญเกิดจิกและตีกัน จากนั้นฝ้าก็เริ่มถล่มลงมาเริ่มจากตรงกลางศาลาไล่มาจะถึงจุดที่พระนั่ง เสียงดังโครม โดยตอนนั้นโยมนั่งอยู่ประมาณ 4 คน หลังฝาพังถล่มมีโยมหน้าผากถลอกได้รับบาดเจ็บนิดหน่อย ส่วนคนอื่นและพระสงฆ์ 5 รูป ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร ก็พากันวิ่งหนีตายออกมากลัวฝ้าจะถล่มมาอีก ส่วนสาเหตุที่ฝ้าศาลาการเปรียญถล่มนั้นตรวจสอบแล้วพบว่าช่างทำการยึดฝ้าไม่หนาแน่ และพบกองขี้นกพิราบจำนวนมาก โดยคาดว่านกที่อาศัยใต้หลังคาขี้ใส่ประกอบกับตัวยึดไม่สามารถรับน้ำหนักได้มากจึงทำให้ฝ้าถล่ม มองด้วยสายตาแล้วขี้นกน่าจะไม่ต่ำกว่า 1,000 กิโลกรัมหรือประมาณ 1 ตัน ทั้งนี้ศาลานี้สร้างมาแล้วประมาณ 40 ปี  ก็ขอฝากถึงญาติโยมขณะนี้ทางวัดอยู่กำลังจะมีกฐินในวันที่ 26-27 ต.ค.67 หากจะร่วมทำบุญ และมีใจจิตศรัทธาอยากจะบูรณะศาลาเพื่อให้พระสงฆ์ได้ประกอบศาสนกิจ และให้ญาติโยมได้ทำบุญ ก็ขอเชิญร่วมทำบุญกฐินได้ในวันและเวลาดังกล่าว