ถ้ากล่าวถึงงานประเพณีลอยกระทงเผาเทียนเล่นไฟจังหวัดสุโขทัย ก็จะนึกถึงการแสดง แสง สี เสียง ความรุ่งเรืองของอาณาจักรสุโขทัยในอดีต การประกวดนางนพมาศ การแสดงตำนาน ท้าวศรีจุฬาลักษณ์ พิธีเผาเทียนเพื่อถวาย เป็นพุทธบูชา การแสดงพลุ ตะไล ไฟพะเนียง แต่ที่ขาดไม่ได้ภายในงานคืออาหารการกินที่เป็นแบบฉบับโบราณเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินจับจ่ายใช้สอยย้อนยุคกับตลาดแลกเบี้ย ซึ่งได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวมากเป็นพิเศษ  เพราะได้จำลองวิถีชีวิตการค้าขายที่ย้อนอดีตกว่า700ปี สมัยกรุงสุโขทัยเป็นปฐมราชธานี และใช้เบี้ยหอยและเงินพดด้วงแทนเงินสด  

พ่อค้าแม่ค้าจะแต่งกายในแบบโบราณย้อนยุค เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกลิ่นอายของ”ตลาดแลกเบี้ย”อย่างแท้จริง  โดยมีการตั้งจุดแลกเงินสดเป็นเบี้ยและเงินพดด้วงเอาไว้บริเวณทางเข้า หลังจากนั้นนักท่องเที่ยว ก็สามารถเดินจับจ่ายหาซื้ออาหารในตลาดแลกเบี้ยได้ทันที  ในอัตรา 1 เบี้ยเท่ากับ 10 บาท และ 1 เงินพดด้วง เท่ากับ 20 บาท ที่ซุ้มขายอาหารกว่า 100 ร้าน จะมีเมนูหลากหลายที่เป็นเอกลักษณ์ของสุโขทัยให้ได้ลองลิ้มชิมรสกัน ไม่ว่าจะเป็น ก๋วยเตี่ยวสุโขทัย, ผัดไทย, ข้าวเปิ๊บ และขนมไทยโบราณอีกมากมาย เช่นขนม4ถ้วย 

ซึ่งปัจจุบันหาทานได้ยากจนคุณธารารัตน์ ปรีดาภิรมย์ เจ้าของร้านเสื้อเพ้นท์ลายสังคโลก บ้านปรีดาภิรมย์ ได้นำขนม 4 ถ้วยกลับมาให้นทท.ได้ลิ้มชิมรสความอร่อยสำหรับขนม4ถ้วยถือเป็นขนมโบราณจะหาทานได้ยากจะมีเฉพาะงานมงคลซึ่งภายในขนมจะประกอบด้วยวัตถุดิบ 4 อย่าง ประกอบด้วย1.ไอ้ตื้อ คือ ข้าวเหนียวดำให้เหนียวแน่นเป็นปึกแผ่น 2.ไข่กบ(เม็ดแมงลัก) คือ มีลูกเต็มบ้านมีหลานเต็มเมือง 3.นกปล่อย(ลอดช่องไทย) คือ อิสระเสรีภาพในการดำรงชีวิตแคล้วคลาด 4.มะลิลอย คือ ข้าวตอกตัวแทนการเจริญก้าวหน้า เวลาจะรับประทานจะตักทั้ง4อย่างรวมด้วยกันจากนั้นจะราดด้วยน้ำเชื่อมผสมกระทิ ความหมายผสมทุกอย่างให้มีความสุข ความหวาน ความรัก ซึ่งจะอาหารทั้งหลายจะเปิดจำหน่ายในตลาดแลกเบี้ยในงานประเพณีลอยกระทงเผาเทียน เล่นไฟ ประจำปี 2567