เมื่อวันที่ 30 ต.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสืบเนื่อง มีเหตุพบศพหญิงผูกคอตัวเองเสียชีวิต ที่บริเวณป่าโคกหนองนกเขียน บ้านข่าดอนเข็มเหนือ หมู่ 2 ตำบลบ้านพร้าว อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู เจ้าหน้าที่จึงรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นถนนลูกรังห่างจากหมู่บ้านไปอีกประมาณ 6 กิโลเมตร เป็นสถานที่เปลี่ยวต้องเดินเท้าจากถนนลูกรังเข้าไปอีกประมาณเกือบ 200 เมตร พบศพทราบชื่อภายหลังว่าคือนางสาววันนาฯ อายุ 43 ปี อยู่หมู่ 3 ตำบล บ้านพร้าว อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู และได้ส่งร่างนางสาววันนาฯ เพื่อผ่าพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวช เพื่อตรวจหาถึงสาเหตุของการเสียชีวิตที่แท้จริง
  

โดยนายวิชัยฯ อายุ 77 ปี บิดาของผู้เสียชีวิตเล่าว่า บุตรสาวได้หายออกจากบ้านเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม 2567 และตนเองก็ได้ไปแจ้งความในคดีคนหายไว้ที่ สภ.เมืองหนองบัวลำภู ตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม 2567 และบุตรสาวป่วยรับการรักษาจิตเวช แต่ตนเองไม่เชื่อว่าบุตรสาวจะมาคิดสั้นแบบนี้ ผูกคออยู่ในลักษณะท่ายืนแต่ขายังคงลากอยู่กับพื้นดิน ตนเองติดใจถึงสาเหตุการเสียชีวิตของบุตรสาวในครั้งนี้ เพราะบุตรสาวปกติชอบอยู่บ้านไม่ค่อยออกไปไหน และระยะทางจากที่บ้านมาที่เกิดเหตุห่างกันกว่า 6 กิโลเมตร นางวันนาฯบุตรสาวจะเดินมาได้ยังไง น่าจะมีคนพามาหรือไม่อย่างไร ส่วนอีกประเด็นที่ทางญาติสงสัยคือ และปมของเชือกที่ผูก เป็นเงื่อนที่ผูกยาก คนทั่วไปจะผูกไม่ได้ ต้องเป็นคนที่มีความชำนาญในการผูกเชือก ถึงจะนำสายไฟมาผูกเป็นเงื่อนลักษณะนั้นได้ ส่วนสายไฟที่พบในที่เกิดเหตุเป็นสายไฟฟ้ารุ่นเก่าแบบอ่อนซึ่งหายากมาก ไม่ทราบว่าบุตรสาวของตนจะไปหามาจากที่ไหน และผู้เสียชีวิตเป็นผู้หญิงคงลำบากในการผูกเงื่อนแบบนี้ ทางญาติตั้งข้อสงสัยว่านางวันนาฯ อาจจะถูกล่อลวงมาทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต และนำศพมาอำพรางคดี
     

หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบกล้องวงจรปิด ซึ่งกล้องวงจรปิดดังกล่าวอยู่ห่างจากบ้านของผู้ตายประมาณ 100 เมตร โดยผู้ตายได้เดินเลี้ยวซ้ายออกมาจากทางหน้าบ้าน ตรงไปถึงสี่แยกแล้วเลี้ยวซ้าย เดินผ่านกล้องซึ่งขณะนั้นเป็นเวลา 04.22 น. ของวันที่ 17 ตุลาคม 2567 บันทึกภาพขณะที่ผู้ตายเดินออกจากบ้าน สวมกางเกงยีนต์ขายาว สวมเสื้อเเขนยาวสีขาว เเละสวมหมวก ซึ่งการเเต่งกายตรงตามที่เเม่ของผู้ตายบอก และในมือทั้ง 2 ข้างว่างเปล่าไม่ได้ถือสิ่งของใดๆ โดยภาพวงจรปิด เห็นผู้ตายเดินออกจากบ้านเพียงลำพัง ลักษณะการเดินอย่างรีบเร่ง หมาเห่าตลอดทาง ซึ่งเส้นทางดังกล่าว สามารถออกไปได้หลายเส้นทาง จึงยังระบุไม่ได้ ว่าหลังจากผ่านกล้องตัวนี้ไปเเล้ว ผู้ตายไปไหนต่อ ซึ่งนี่เป็นภาพสุดท้ายของเจ้าตัวขณะยังมีชีวิตอยู่.