นายสุมาตร อินทรมณี นายกสมาคมชาวสวนปาล์มสุราษฎร์ธานี และประธานศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรกิจกรรมปาล์มน้ำมัน (คพก)  เปิดเผยว่า ปัจจุบันราคาปาล์มน้ำมันมีราคาที่สูงขึ้นถึงกิโลกรัมละ 9 บาทสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากช่วงนี้มีผลผลิตออกมาน้อย จากผลกระทบภัยแล้งปาล์มขาดน้ำ ทำให้ผลผลิตน้อยลง บวกกับราคาตลาดโลกก็ดีขึ้น จึงทำให้ราคาภายในประเทศปรับตัวสูงขึ้น การที่ราคาปาล์มสูงขึ้นก็ส่งผลให้เกษตรกรชาวสวนปาล์มมีรายได้และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ในขณะที่ราคาปุ๋ยก็สูงขึ้นเกษตรกรก็จะแบกรับภาระค่าใช้จ่าย

แต่อีกด้านก็อาจจะไปส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคน้ำมันพืชในราคาที่สูงขึ้นแต่ก็คิดว่าคงกระทบอยู่ช่วงหนึ่งพอช่วงปลายปีถึงเดือนมกราคมปีหน้า ผลผลิตปาล์มในรอบใหม่ก็จะออกสู่ท้องตลาดเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับปัจจุบันพื้นที่ปลูกก็มีเพิ่มมากขึ้นจากเดิมอีกกว่าแสนไร่ รวมถึงภาครัฐมีมาตรการระงับการส่งออกด้วยก็จะไม่น่ามีปัญหา เพราะเมื่อถึงช่วงที่ราคาปาล์มลดลง ราคาน้ำมันพืชก็ควรจะปรับลดลงด้วย คิดว่าภาครัฐก็มีมาตรการควบคุมดูแลเรื่องดังกล่าวอยู่แล้วจะได้ไม่กระทบต่อผู้บริโภคมากเกินไป

ด้านนายกอบ ทวนดำ พาณิชย์จังหวัดสุราษฎร์ธานี  ให้ข้อมูลว่า จากการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การปาล์มน้ำมันตอนนี้ กรมการค้าภายในได้ขอความร่วมมือไปยังโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มเพื่อที่จะลดการส่งออกไปยังต่างประเทศ ในส่วนของค้าปลีกค้าส่งก็ขอความร่วมมือให้ชะลอการปรับขึ้นราคาไว้ก่อน ทั้งนี้สำนักพาณิชย์จังหวัดที่ต้องดูแลในพื้นที่ได้มีการติดตาม และรับนโยบายจากส่วนกลาง พร้อมกำกับดูแลให้เกิดความเป็นธรรมอย่างต่อเนื่อง

ในส่วนของราคาน้ำมันพืชที่มีการปรับตัวสูงขึ้น ทางเราก็มีการติดตาม และควบคุมอย่างต่อเนื่อง ยังอยู่ในราคาที่มีความสมดุล ทางเราไม่ได้นิ่งนอนใจด้วยความเป็นห่วงประชาชนหากพบว่ามีการปรับราคาขึ้นอย่างไม่เป็นธรรมก็จะมีมาตราการลงโทษตามกฎหมาย ส่วนพ่อค้า แม่ค้าที่ต้องใช้น้ำมันพืชในการประกอบอาชีพเป็นจำนวนมากนั้น ทางเราก็จะหาแนวทางในการขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการน้ำมันในพื้นที่จัดโครงการช่วยเหลือกันต่อไป

ในส่วนภาคเกษตรกรเราก็ได้ดูแลในเรื่องของผลผลิตอยู่เหมือนกันตอนนี้ราคาปรับตัวขึ้นพี่น้องเกษตรกรก็มีรายได้มากขึ้นเพราะผลผลิตน้อยราคาก็สูง แต่ถ้าช่วงที่มีผลผลิตออกมามากก็อาจจะส่งให้ราคาซื้อลดลง น้ำมันพืชก็จะต้องมีการปรับตัวลดลงเราก็ต้องดูแลทั้งภาคเกษตรกร และผู้บริโภค ให้เกิดความเป็นธรรม.