วันที่ 7 พ.ย.67 ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี มีครูสาวอายุ 27 ปีท่านหนึ่งได้โพสต์เฟสบุ๊คแจ้งว่า “ในเมื่อโรงเรียนไม่ช่วยอะไรเลย ก็ต้องช่วยเหลือตัวเองแล้วแหล่ะ วันนี้งัดห้องอนุบาล วันดีคืนดีงัดบ้านพักครูขึ้นมาทำยังไง ซึ่งบ้านพักครูก็อยู่ในโรงเรียน ต้องให้เกิดเหตุก่อนใช่ไหมถึงจะช่วย ดูในกล้องก็รู้แล้วว่าใครคือโจร แต่ไม่ไปแจ้งความ แล้วความปลอดภัยของครูอยู่ที่ไหน เหตุเกิดรอบที่ 2 ไม่ใช่ครั้งแรกที่โดนงัดแล้วทรัพย์สินเสียหาย” พร้อมกับภาพความเสียหายภายในห้องของนักเรียนอนุบาล เหตุเกิดที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในต.บ้านม่วง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี สังกัดสำนักงานประถมศึกษาเขต 3 อุดรธานี ขณะเดียวก็มีคลิปวงจรปิด เมื่อเวลาประมาณ 22.40 น.ของวันที่ 4 พ.ย.67 คนร้ายจำนวน 3 คนได้บุกเข้าไปภายในห้องเรียนของเด็กอนุบาลเพื่อค้นหาทรัพย์สินที่มีค่า รูปร่างผอมสูงเหมือนคนติดยา ใส่เสื้อและกางเกงสีดำ ใส่หมวกบานหรือหมวกปีกกว้างสีน้ำตาล อีกคนสะพายกระเป๋า และอีกคนรอสังเกตการณ์อยู่หน้าห้อง โดยคนร้ายทั้งสามคนได้ทำลายกล้องวงจรปิด แต่ไม่คิดว่าจะมีอีกตัวยังเหลืออยู่ จึงจับภาพเอาได้ เมื่อค้นหาของมีค่าไม่ได้อะไรมาก ได้เพียงกระดาษ เอ4 1 ปึกและดินสอของเด็กๆ ไป ซึ่งก่อนหน้านี้คนร้ายก็เคยเข้ามาขโมยโน๊ตบุ๊คไปครั้งเดียวแล้ว

ซึ่งภายหลังจากผอ.โรงเรียนทราบเรื่องว่ามีคนร้ายบุกเข้ามาขโมยทรัพย์สินภายในโรงเรียน ทั้งๆ ที่ครูประจำชั้นได้แจ้งในไลน์กลุ่มโรงเรียนแล้ว แต่ไม่ดำเนินการใดๆ จนครูน้อยอดไม่ไหวกลัวคนร้ายกลับมาก่อเหตุอีก นำไปลงสื่อโซเซียลในพื้นที่และไปแจ้งความที่สภ.ดงเย็น ต่อมาผอ.โรงเรียนเรียกประชุมครูทั้งโรงเรียน โดยในที่ประชุม ผอ.โรงเรียนบอกว่า กรณีคนร้ายบุกเข้ามางัดห้องอนุบาลเพื่อหาทรัพย์สิน รูปแบบของรายงานโรงเรียนทำให้ความเสียหายกับองค์กร แต่ไม่เสียหายกับทรัพย์สินแต่อย่างใด และจากการผมเข้าไปชุมชนพูดคุยกับชาวบ้านพอรู้ตัวคนร้ายแล้ว ประมาณ 3-4 คน ซึ่งวงจรปิดของเราตรวจพบประมาณ 1 ทุ่มเศษคนร้ายเข้ามาครั้งแรก เราระบุตัวไม่ได้เพราะเขายังไม่ได้ก่อเหตุ เข้ามาอีก 4 ทุ่มกว่าเจอตัวคนร้าย ตอนนี้ตร.เจอตัวคนร้ายแล้ว ปล่อยเป็นหน้าที่ของตร.ต่อไป ส่วนโรงเรียนไม่ได้รับความเสียหาย และเมื่อเช้านี้มีคลิปวงจรปิดของโรงเรียนไปลงโซเซียล คลิปตรงนี้มันก็มีข้อดีและข้อเสีย ข้อดีคือเราได้บ่งบอกกับชาวโลกไปแล้วว่า โรงเรียนเราโดนมิจฉาชีพเข้ามา ส่วนข้อเสียมากกว่าข้อดี 200 เท่า ฝากเตือนคุณครูไม่ทราบว่าครูคนไหนเอาคลิปไปลงโซเซียล ผมก็ห้ามแล้วว่าอย่าเพิ่งเอาไปลงในสื่อโซเซียลเพราะข้อมูลยังไม่ชัดเจน พอเอาไปลงการคาดโทษอันดับแรกคือผู้บริหาร ผอ.เขตขู่ผมแล้วว่า อย่าให้ผมรู้หลังสื่อโซเซียล ถ้าผมรู้หลังสื่อโซเซียล โรงเรียนคุณและผอ.โรงเรียนรับผิดชอบเอง ผมไม่ทราบว่าครูคนไหนเอาไปลง ต่อไปอย่าเอาไปลงทำให้โรงเรียนเสียหาย หากผมรู้ว่าเป็นครูคนไหนผมจะเอาคาดโทษทางวินัย

ต่อมามีครูคนหนึ่งกล้าตัดสินใจ บอกว่าผอ.ว่า หนูเองค่ะ!!! ผอ.จึงถามว่า เอาไปลงสื่อที่ไหนครับ เป็นคนเอาไปลงสื่อโซเซียลโดยส่งให้กับคนรู้จัก ผอ.ก็โต้ว่า ต้องปรึกษาผมก่อนนะครับ ผมจะแจ้งความอยู่แต่จะดูว่าสมควรแจ้งความขนาดไหน ขณะที่ครูสาวก็บอกกับผอ.อีกว่า หนูแจ้งผอ.แล้วนะค่ะ รอบนี้รอบที่ 2 แล้วนะค่ะ ไม่โอเคเลยค่ะผอ ผอ.ก็บอกว่า ผมก็ดูอยู่ จะไปแจ้งความอยู่ต้องดูอะไรหลายอย่าง ต้องปรึกษาผู้ใหญ่เยอะอยู่ อย่าทำโดยพลการ ผมขอตำหนิ ขอตักเตือนไว้ก่อน ต่อไปอย่าทำอีก ขณะที่ครูในห้องประชุม ผอ.ค่ะมันหลายเหตุการณ์แล้วนะค่ะ ก็ไม่ทำอะไรซะที ผมก็ทราบแต่อย่าหลายเหตุการณ์มารวมกัน ส่วนเด็กที่เข้ามาด่าครูในโรงเรียนเราก็ทำอะไรเขาไม่ได้ เพราะเขายังไม่ได้ทำอะไรมากกว่าด่า ทำแบบนี้ทำเสียหายทั้งองค์กร โดยเฉพาะเอาคลิปไปลงสื่อโซเซียลจะเป็นดาบสองคม ขณะที่ครูสาวก็โต้แย้งผอ.ว่า หนูมั่นใจว่าหนูไม่ได้ทำอะไรผิดนะค่ำผอ. มันเกิดที่ห้องหนู ถ้ามันไปเกิดที่ห้องผอ.หละค่ะหรือห้องอื่น หนูก็เชื่อว่าต้องมีการดำเนินการ อันนี้เกิดที่ห้องหนู เกิดขึ้น 2 ครั้งแล้ว กล้องวงจรปิดหนูก็ซื้อมาติดตั้งเอง ถ้าเหตุครั้งหน้ามาอีก หนูทำไปเพื่อปกป้องตัวเอง ครั้งหน้าถ้าไม่ใช่ทรัพย์สินอาจจะเป็นชีวิตหรืออะไรไม่รู้ แต่นี่ผอ.บอกว่าไม่ไปแจ้งความ เพราะอบต.ไปแจ้งความแล้ว หนูเสียใจมากเลยค่ะผอ.เพราะหน่วยงานคนละหน่วยงานกัน แต่นี่มันเกิดเหตุที่โรงเรียนเรา ผอ.จะไม่ไปแจ้งความเลยหรือ แต่ไปให้อบต.ไปแจ้งความ หนูเสียใจมากเลยค่ะ

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับครูเอและครูบี (นามสมมติ) ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน ต.บ้านม่วง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ครูเอและครูบี เผยกับนักข่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีคนร้ายบุกเข้ามาในโรงเรียน งัดห้องเด็กอนุบาล 2 ขโมยหาของมีค่า โดยคนร้ายได้กระดาษเอ 4 ไป 1 ปึกและดินสอของเด็กไป เขาเคยมาขโมย 2 ครั้งแล้ว และยังมีวัยรุ่นมาตะโกนด่าโพสต์ข่มขู่ครูผู้หญิงในโรงเรียนด้วย แต่ทางผอ.ไม่ดำเนินการอะไรเลย แต่ที่พวกหนูไม่สบายใจคือผอ.ตำหนิพวกหนูว่า อย่าทำอะไรโดยพลการ อย่าเอาคลิปไปลงสื่อโซเซียล จะคาดโทษทางวินัยด้วย เรื่องที่เกิดขึ้นหนูก็แจ้งผอ.แล้วแต่ผอ.บอกว่าไม่ต้องไปแจ้งความ เพราะอบต.ไปแจ้งความแล้ว มันเป็นคนละหน่วยงาน โรงเรียนเราเสียหายเราก็ต้องไปแจ้งความไม่ใช่ให้อบต. แล้วอีกอย่างผอ.บอกว่าจะคาดโทษทางวินัย พวกหนูก็ไม่สบายใจเพราะหนูยืนยันว่าหนูไม่ได้ทำอะไรผิด

ครูบี (นามสมมติ) อายุ 32 ปี บอกอีกว่า ประชุมเมื่อวานผอ.ตำหนิที่ครูเอเอาไปคลิปคนร้ายบุกห้องเด็กอนุบาลไปลงสื่อโซเซียล จะมีการคาดโทษวินัย เมื่อผอ.ไม่ไปแจ้งความ พวกเราเลยไปแจ้งความแล้ว พวกเรามั่นใจว่าเราไม่ได้ทำอะไรผิด เราปกป้องโรงเรียนและปกป้องตัวเอง หากครั้งหน้าเขาบุกเข้ามาขโมยมากกว่าทรัพย์สินหมายเอาชีวิตครูจะไม่หนักกว่านี้หรือ และที่ไม่สบายใจคือ ผอ.ท่านนี้ พูดกับครูผู้หญิงในโรงเรียนก่อนเข้าประชุม เหมือนผอ.พูดด้วยความห่วงใยหากมีคนร้ายบุกเข้ามาโรงเรียน อยู่บ้านพักครูทั้งในโรงเรียนและนอกโรงเรียนให้ระวังตัวกัน ถ้ามันงัดเข้ามาเราอาจจะไม่ได้พูดอะไร แต่อย่าลืมบอกมันนะว่า ให้ข่มขืนก่อนแล้วค่อยฆ่า จากนั้นผอ.ก็หัวเราะ หนูฟังผอ.พูดแบบนี้หนูว่าไม่ตลกเลย แม้ผอ.จะพูดเล่นแต่คนฟังไม่ตลกไปด้วย

ล่าสุดตร.สภ.ดงเย็น ติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุงัดห้องเด็กอนุบาลได้แล้ว 3 รายคือ นายวอ นายแฟ๊งและนายแบงค์ อายุ 19 ปีทั้งสามคน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป