บริเวณโป๊ะขึ้นลงเรือสำราญเทศบาลเมืองนครพนม ริมแม่น้ำโขง หลังลานพนมนาคา พญาศรีสัตตนาคราช ถนนสุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนม นางนุชธิดานาฏ เพชรดอนจันทร์ หรือ ดร.นุช บุญหลาย อายุ 52 ปี ชาวบ้าน ต.กองนาง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย เป็นเจ้าของธุรกิจขายตรง ผลิตภัณฑ์น้ำว่านสมุนไพร ยากะษัยเส้น และน้ำดื่ม เดินทางมาพร้อมกับสามี เพื่อประกอบพิธีรำบวงสรวงพ่อปู่พญานาคกลางแม่น้ำโขง ถือเป็นครั้งแรกตั้งแต่ประดิษฐานองค์ปู่เมื่อปี 2559 ยังไม่เคยมีผู้ศรัทธารำถวายในลักษณะนี้มาก่อน
           

จากการสอบถามในการรำครั้งนี้ ดร.นุช บุญหลาย เปิดเผยที่มาที่ไปว่า หลายปีก่อนธุรกิจน้ำว่านสมุนไพร ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักของผู้บริโภคมากนัก กระท่อนกระแท่นไม่ราบรื่น ต่อมาได้มาเที่ยวล่องเรือสำราญที่นครพนม และได้เดินไปที่บันไดนาคบริเวณหน้าวัดโอกาส ใกล้กับท่าเทียบเรือเพื่อการท่องเที่ยว แล้วก็ยกมือสิบนิ้วพนมไหว้ขอพรอธิษฐาน พอกลับไปถึงกรุงเทพฯ  ปรากฏว่าเพียงไม่กี่วันตัวแทนที่อยู่นครพนม มีออเดอร์สั่งผลิตภัณฑ์เข้ามาแบบน่าตกใจ โดยหนึ่งเดือนมียอดขายถึงล้านกว่าบาท รวมถึงช่วงก่อนโควิดระบาด พี่น้องทางเมืองท่าแขก แขวงคำม่วน สปป.ลาว สั่งสินค้าไปบริโภคถึงเดือนละ 200 ลังๆละ 12 ขวด สถานการณ์พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ ในเวลาอันรวดเร็ว

ดร.นุชเล่าต่อว่าธุรกิจเดินหน้าไปได้ดีเกินคาด แต่ไม่นานตนเองก็ล้มป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ แม้ได้เงินเยอะแต่ต้องหมดไปกับการรักษา ตรวจร่างกายทั้งกระแสไฟฟ้าในสมอง และระบบ MRI  (Magnetic Resonance Imaging) คือ การตรวจร่างกายโดยใช้สนามแม่เหล็กความเข้มสูง และคลื่นวิทยุความถี่จำเพาะ ร่วมกับการคำนวณด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ฯ เสียค่าใช้จ่ายครั้งละประมาณ 70,000 บาท ไปตรวจในโรงพยาบาลใหญ่ๆประมาณ 10 แห่ง แต่ไม่พบความผิดปกติใดๆ
           

หลังพึ่งทางการแพทย์แผนปัจจุบันไม่พบสาเหตุโรค จึงหันไปหาทางไสยศาสตร์ พบกับพระเขมรรูปหนึ่ง ท่านบอกให้ยอมรับเป็นลูกพญานาคซะ พอดีตนเรียนจบทางวิทยาศาสตร์ ปริญญาตรีการจัดการทั่วไป ปริญญาโทหลักสูตรรัฐศาสตรมหาบัณฑิต และ ปริญญาเอก Leadership Development (การพัฒนาภาวะผู้นำ) จึงไม่มีความเชื่อแบบนี้ เลยมาคิดว่าถ้าไม่ขอเป็นร่างทรงพ่อปู่พญานาค ขอเป็น 3 หมอได้ไหม คือ 1.หมอว่าน  2.หมอยาสมุนไพร และ 3.หมอธรรมมะ จึงคิดเรื่องธรรมมะขึ้นมาด้วยตนเอง จากนั้นก็ค่อยๆเข้าใจชีวิตของตน ว่า ที่เราล้มป่วยเพราะอย่างนี้นี่เอง ทั้งนี้การทำความดีไม่ใช่เรื่องเสียหาย คนที่นับถือพญานาคก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายเช่นกัน และพญานาคก็มีมาแต่พุทธกาล ตอนนี้เชื่อหมดใจแล้ว

ส่วนทำนองเพลงที่ใช้รำในน้ำ เป็นธรรมมะที่แต่งขึ้นมาเอง ไม่มีอะไรลึกลับซับซ้อน เนื้อหาส่วนใหญ่เกี่ยวกับพระพุทธเจ้า เคยไปรำหลายสถานที่จนจำไม่ได้ ทั้งที่ จ.หนองคาย และตามวัดต่างๆที่พระท่านบอกรำให้ชาวบ้านดู ทุกครั้งจะเป็นคนควักกระเป๋าเป็นค่าใช้จ่ายเอง หลายคนสงสัยว่ารำเพื่อหาเงิน ยืนว่าตนรำเพื่อเอาบุญ ไม่ใช่ร่างทรงและไม่มีสำนัก
           

“ทุกครั้งที่จะลอยอยู่ในน้ำ จะพูดถึงองค์พญาศรีสัตตนาคราช อธิษฐานขอพรไม่มีคาถาอะไรทั้งสิ้น หลายคนสงสัยว่ามีฟองน้ำยัดใส่หลังหรือเปล่า ก็เห็นแล้วไม่มีอะไรเลย การลอยน้ำรำบวงสรวงในแม่น้ำโขงวันนี้ น้ำไหลแรงแต่ไม่เป็นอุปสรรค เมื่อขึ้นจากน้ำไม่รู้สึกหนาวปกติทุกอย่าง”

โดย ดร.นุช บุญหลาย ใช้รำถวายพ่อปู่โดยลงน้ำโขงบริเวณตรงทางลงบันไดนาค ที่เคยไปพนมมือไหว้ขอพรเมื่อหลายปีก่อน จนประสบความสำเร็จ จากนั้นก็นอนพนมมือบ้างรำบ้างตามทำนองเพลงธรรมมะที่แต่งเอง ไปจนถึงหน้าองค์พญาศรีสัตตนาคราช ระยะทางประมาณ 60 เมตร ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก็ขึ้นเรือกลับมายังโป๊ะเรือสำราญเทศบาลเมืองนครพนม จากนั้นทั้งสองก็เดินทางกลับ จ.หนองคาย โดยไม่มีผู้ติดตามใดๆ มีเพียงสามีคนเดียวเท่านั้นที่ถ่ายคลิปวีดีโอ