วันอาทิตย์ ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 11:24 น.

ภูมิภาค

สองผัวเมียสุดแสบพาลูกน้อยตระเวนลักมือถือขณะเจ้าของร้านเผลอ

วันศุกร์ ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2567, 20.43 น.

สองผัวเมียสุดแสบพาลูกน้อยทำทีเข้ามาใช้บริการจำนำมือถือ เห็นคนแก่อยู่ลำพัง ย้อนกลับมาย่องลักมือถือ ไม่เกรงกลัวกฎหมายยังขับขี่รถจยย.ตระเวนก่อเหตุซ้ำในตัวเมืองชุมพรได้โทรศัพท์ได้ไอแพดและไอโฟนไปอีกหลายเครื่อง
    

โดยเหตุการณ์เวลา 13.00 น.วันที่ 20 ธ.ค.67 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก น.ส.กนกวรรณ รุ่งโรจน์วุฒิพงษ์ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 144 ม.16 ต.ท่าแซะ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ว่า ตนเองเปิดร้านจำหน่ายและรับซื้อโทรศัพท์มือถือ ชื่อร้าน ส.มือถือท่าแซะ ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนสายเพชรเกษม ขาขึ้น กทม.ใกล้ป้อมสายตรวจตำรวจท่าแซะ เพียง 50 เมตร
          

ก่อนนั้นตนเองได้เดินทางไปธุระในตัวเมืองชุมพร โดยที่ร้านซึ่งตอนแรกจะไม่เปิดเพราะเมื่อวานเป็นงานเทิดพระเกียรติเสด็จในกรมหลวงชุมพร คนส่วนใหญ่จะไปร่วมในพิธีกัน แต่เพราะลูกค้านัดจะมารับมือถือที่ซ่อมไว้ จึงจำเป็นต้องเปิดและให้ นางปุณณภา คุณาวิทย์ อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นแม่ และยาย ช่วยเฝ้าร้านให้ หากมีใครจะมีซื้อและขายโทรศัพท์มือถือ แม่ก็จะโทรศัพท์มาที่ตนเพื่อพูดคุยจะขายมือถือหรือรับซื้อในราคาเท่าไหร่ เพื่อจะได้บอกลูกค้าได้ถูกต้อง
    

น.ส.กนกนวรรณ กล่าวว่า เมื่อวาน (19 ธ.ค.) เวลาประมาณ 17.30 น.ขณะที่ตนเองกำลังธุระอยู่ในเมืองชุมพร แม่ก็ได้โทรศัพท์มาหาว่ามีลูกค้านำแทบแล็ตมาขาย และแม่ก็ถ่ายแทบแล็ตเครื่องดังกล่าวส่งมาให้ดู ซึ่งตนเองก็บอกว่า รุ่นนี้ไม่ได้ราคาอะไร เพราะตกรุ่นมาก จึงไม่รับซื้อ จากนั้นคนที่เอาแทบแล็ตมาจะขาย ก็รับกลับไป แล้วก็ขึ้นรถ จยย.ขับออกไป โดยแม่ได้สงสัยหรือเอะใจอะไร
         

จนกระทั่งเมื่อช่วงเช้าวันนี้ ตนเองได้เปิดร้าน ก็พบว่าโทรศัพท์มือถือในตู้โชว์ ตรงด้านหน้า ซึ่งมีทั้งเครื่องมือสองและของลูกค้าที่เอามาซ่อม หายไป จึงได้สอบถามแม่ว่าได้ขายมือถือที่ตั้งโชว์ในตู้ไปหรือเปล่า ซึ่งแม่ได้บอกว่า เมื่อวานไม่มีลูกค้ามาซื้อและมารับมือถือที่ซ่อมกลับไปสักราย ตนเองจึงรู้เลยว่า มีมือดี เข้ามาขโมยโทรศัพท์ไปแล้วแน่ จึงได้ไปเปิดกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่รอบร้านทุกมุมดู
           

น.ส.กนกวรรณ กล่าวต่อว่า และเมื่อเปิดกล้องวงจรปิดย้อนไล่กลับไปดู โดยตั้งข้อสงสัยตั้งแต่คนที่มาจะจำนำแทบแล็ตน่าจะเป็นคนขโมย ซึ่งก็เป็นจริงที่สันนิษฐานไว้ เพราะกล้องวงจรปิดจับภาพได้อย่างชัดเจน ตั้งแต่เริ่มที่มีชายสวมเสื้อยืดคอวี แขนยาวสีออกโทนม่วงอ่อน สวมกางเกงยีนส์สีดำซีด มีแมสสีดำคาดติดอยู่ที่ปลายคาง อายุ ไม่น่าจะเกิด 40 ปี ขับรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ ทะเบียนรถ ดจฉ 177 สุราษฎร์ธานี เข้ามาโดยมีหญิงสาวสวมหมวกกันน็อคสีดำ สวมเสื้อคลุมแขนยาวสีดำ กางเกงขายาวสีเทาพร้อมเด็ก อายุ 2 - 3 ปี ขับเข้ามาหน้าร้าน ซึ่งคาดว่าทั้งหมดเป็นพ่อแม่ลูกกัน
         

เมื่อจอดรถแล้ว ผู้หญิงพร้อมเด็ก ลงจากรถเดินมายืนรออยู่หน้าร้าน ซึ่งขณะนั้นเป็นเวลาเย็นแล้ว เตรียมจะปิดร้าน คงเหลือเปิดอยู่ด้านเดียว ส่วนตัวผู้ชายได้หันรถ จยย.กลับหัวไปทางถนน ก่อนจะลงมาสมทบแล้วเข้ามาพร้อมกัน โดยเข้ามาพูดคุยกับแม่ เพื่อจะขอจำนำแทบแล็ต แต่เมื่อไม่ขอรับซื้อ ทั้งสามก็กลับไปขึ้นรถ ขับเลี้ยวซ้ายไปทาง กทม. แต่เพียงไม่กี่นาที ทั้งสามก็ได้ขับรถ จยย.คันเดิม ย้อนศรกลับมา ผ่านหน้าร้านไปจอดก่อนถึงป้อมตำรวจ แล้วครึ่งเดินครึ่งวิ่ง เข้าหน้าร้าน แล้วก็พุ่งเข้าไปในร้านก่อนจะคว้าโทรศัพท์มือถือทั้งของมือถือสองที่วางขายและโทรศัพท์มือถือของลูกค้า ที่เอามาทั้งจำนำและซ่อมไป จำนวน 5-6 เครื่อง ก่อนจะวิ่งไปขึ้นรถขับหนีไป
          

ตนเองเชื่อว่าครั้งนี้จะเข้ามาดูลาดเลา พอเห็นมีแต่คนแก่ จึงได้ย้อนกลับมาก่อเหตุ ตนจึงได้นำคลิปดังกล่าวไปแจ้งความกับทางพนักงานสอบสวน สภ.ท่าแซะ จ.ชุมพร เพื่อช่วยติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว และเพราะหลังจากที่ตนเองได้โฟสต์เฟซ ก็มีหลายคนเข้าคอมเม้นท์และแจ้งว่า น่าจะเป็นคนร้ายสามพ่อลูกที่เคยเข้าไปลักโทรศัพท์มือถือที่รีสอร์ทเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
       

ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ ( 20 ธ.ค.) มาก่อเหตุลักในเมืองชุมพร ได้ ไอโฟนจำนวน 3 เครื่องและไอแพค 1 เครื่อง

หน้าแรก » ภูมิภาค