ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า วันนี้ 26 ธันวาคม 67 ที่วัดป่าบอนต่ำ ตำบลป่าบอน อำเภอป่าบอน จังหวัดพัทลุง ตั้งแต่ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา มีชาวบ้าน และประชาชน จำนวนมาก มาร่วม ฌาปนกิจ นายสิทธิพงศ์ และนางสาวอรชร สามีภรรยาที่ถูกอดีต อส.อำเภอหาดใหญ่ ยิงในร้านข้าวต้มริมถนนนวลแก้วอุทิศ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ กลางดึกวันที่ 22 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า และผู้ที่เข้าร่วมแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตก็ได้มอบทุนการศึกษาให้กับน้องแชมป์ อายุ 12 ขวบ และน้องเชียร์ อายุ 6 ขวบ ลูกชายและลูกสาวของผู้เสียชีวิต
 
ขณะที่ครูโรงเรียนศรีนครมูลนิธิ ได้นำนักเรียนในห้องชั้น ป.6/3 ซึ่งเป็นเพื่อนกับน้องแชมป์ ลูกชายคนโตของผู้เสียชีวิต มาร่วมแสดงความเสียใจและร่วมไว้อาลัย

นางกัญชพร ยอดแก้ว ครูประจำชั้น ป.6/3 โรงเรียนศรีนครมูลนิธิ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุสามีของตน ซึ่งเป็นตำรวจชุดสืบสวน สภ.หาดใหญ่ โทรศัพท์มาบอกว่า เกิดเหตุยิงกันที่ร้านข้าวต้ม ริมถนนนวลแก้วอุทิศ ซึ่งจังหวะนั้นก็ยังไม่รู้ว่าเป็นผู้ปกครองของน้องแชมป์ เด็กในชั้นเรียนที่เป็นครูประจำชั้น กระทั่งได้เห็นรูป จากนั้นน้องแชมป์ ก็โทรศัพท์มาบอกตนว่า พ่อกับแม่ถูกยิงเสียชีวิตแล้ว และไม่มีพ่อกับแม่แล้ว

ตนจึงเดินทางไปที่เกิดเหตุ เพื่อให้กำลังใจ และอยู่เป็นเพื่อนน้องแชมป์ ทั้งนี้ น้องแชมป์เป็นเด็กเรียนดี เล่นกีฬาฟุตบอล และเป็นที่รักของเพื่อนๆ ซึ่งถือเป็นเด็กกิจกรรมคนหนึ่งของโรงเรียน โดยขณะนี้ได้หารือกับผู้บริหารของโรงเรียนแล้ว ก็ได้ข้อสรุปในเบื้องต้นว่า ค่าเทอมที่ผู้ปกครองยังค้างจ่าย 2 เทอม เฉลี่ยเทอมละประมาณ 4,000 บาท โรงเรียนก็จะยกให้ และหลังจากนี้ เมื่อน้องแชมป์เรียนจบชั้น ป.6 แล้ว หากจะเรียนต่อที่โรงเรียนศรีนครมูลนิธิ จนจบชั้น ม.6 ก็จะให้น้องแชมป์เรียนฟรีจนจบการศึกษา และจะหารือกับญาติน้องแชมป์ว่า จะให้น้องเชียร์ ซึ่งเป็นน้องสาวของน้องแชมป์ ที่เรียนอยู่ชั้นป.1 โรงเรียนเทศบาล 2 (บ้านหาดใหญ่) ย้ายมาเรียนที่โรงเรียนศรีนครมูลนิธิกับพี่ชายด้วย

ขณะที่ เมื่อเวลา 14.00 น. นางสาว ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางมายังวัดป่าบอนต่ำ อำเภอป่าบอน จังหวัดพัทลุง เป็นประธาน ฌาปนกิจศพนายสิทธิพงษ์ และนางสาวอรชร สามีภรรยาที่ถูกอดีต อส.อำเภอหาดใหญ่ ยิงเสียชีวิตในร้านข้าวต้มริมถนนนวลแก้วอุทิศ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ กลางดึกวันที่ 22 ธันวาคมที่ผ่านมา

โดยนางสาวซาบิดา ได้พูดคุยกับน้องแชมป์ อายุ 12 ขวบ และ น้องเชียร์ อายุ 6 ขวบ 2 คนพี่น้องลูกของผู้เสียชีวิตที่ต้องกำพร้าพ่อแม่ พร้อมกับมอบเงินสดเป็นทุนการศึกษาจำนวนหนึ่ง และได้เขียนหมายเลขโทรศัพท์ส่วนตัว ให้กับ 2 คนพี่น้อง เพื่อให้ติดต่อหาโดยตรง

ทั้งนี้ นางสาว ซาบีดา ได้บอกกับเด็กทั้ง 2 คนว่า ขอให้รู้ไว้ว่ายังมีพี่คนนี้เป็นกำลังใจ อยู่เคียงข้างเสมอและจะมาดูแลน้องๆ ซึ่งนางสาวแพรทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีก็แสดงความกังวลและเป็นห่วง เหตุที่เกิดขึ้นอย่างมาก รวมทั้งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยก็ฝากแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมกับมอบให้ทางจังหวัด ประชุมคณะกรรมการค่าตอบแทนต่างๆ เพื่อดูแลบุตรของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน

และนายกรัฐมนตรีก็ได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดดูแลค่าใช้จ่าย และในส่วนของการดูแล การศึกษาของเด็กทั้งสองคนนั้นก็จะนำกลับไปหารือกับนายกรัฐมนตรี
 
ส่วนการพกพาอาวุธปืนของ อส.นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เน้นย้ำ การตรวจสอบการพกพาอาวุธปืนของ อส. และเจ้าหน้าที่รัฐ สังกัดกระทรวงมหาดไทย ให้เข้มงวดมากยิ่งขึ้น เพื่อไม่ให้กระทบกับประชาชน ส่วนผู้บังคับบัญชาก็ต้องคาดโทษหากหชะหลวม ไม่ดูแลกำกับผู้ใต้บังคับบัญชา

ด้าน นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอหาดใหญ่ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุได้พูดคุยกับผู้ต้องหาซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา ก็ยืนยันว่า ก่อเหตุเพราะบันดาลโทสะ หลังเจ้าของร้านข้าวต้มปฏิเสธให้นั่งดื่มกินรอบที่ 2 เนื่องจากเห็นว่าชักอาวุธปืนขึ้นมาสไลด์ จ่อใส่พนักงานของร้าน และยืนยันว่าผู้ก่อเหตุไม่ได้มีปัญหา ครอบครัว หรือมีความเครียดจากการทำงาน
 
ส่วนการพกพาอาวุธปืน ของอส. นั้นก็พกพาได้ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่และต้องมีคำสั่ง ให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วย ไม่สามารถที่จะพกพาในช่วงเวลาเลิกปฏิบัติหน้าที่แล้ว

ทั้งนี้ อส.อำเภอหาดใหญ่ ได้พวกรวมเงินจำนวน 100,000 บาทมอบให้เป็นทุนการศึกษากับลูกของผู้เสียชีวิตทั้งสองคน และมอบเงินเยียวยาให้กับลูกชายเจ้าของร้านข้าวต้มที่เกิดเหตุจำนวน 10,000 บาท
 
 
ทั้งนี้หลังเสร็จสิ้นพิธีการ ญาติได้ช่วยกันยกศพของนายสิทธิพงศ์ และ นางสาวอรชร ไปยังเชิงตะกอนชั่วคราว ในฌาปนสถาน วัดป่าบอนต่ำ โดยน้องแชมป์ ลูกชายของผู้เสียชีวิตได้เดินถือรูปของพ่อตัวเอง พร้อมกับร้องไห้ตลอดเวลา ขณะที่น้องแชมป์ ได้บอกกับร่างไร้วิญญาณของแม่และพ่อว่า ไม่ต้องเป็นห่วง ไม่ต้องกังวลใดๆ ตัวเองจะดูแลน้องสาวให้ดีที่สุด จากนั้นนครนายก ก็ทำพิธีและจุดไฟเผาร่างของผู้เสียชีวิตทั้งสองคนท่ามกลางเสียงร้องไห้ของญาติๆ