วันที่ 14 มกราคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดศรีสะเกษ บรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ ( นายก อบจ.) ซึ่งขณะนี้เดินทางมาถึงครึ่งทางแล้ว โดยผู้สมัคร ลงพื้นที่ หาเสียงขอคะแนนจากประชาชนในพื้นที่ อย่างต่อเนื่อง

โดยเฉพาะ นายกส้มเกลี้ยง วิชิต ไตรสรณกุล หมายเลข 7  ในนาม “คนท้องถิ่น”  ซึ่งยึดถือนโยบายหลัก 7 หลัก  และเน้นสโลแกน ให้คนท้องถิ่น ดูแลท้องถิ่น ชูความเป็นต้นกำเนิด ความเข้าใจปัญหาในพื้นที่ นำไปสู่การแก้ไข โดย นายกส้มเกลี้ยง  หลังปีใหม่ ควง  กวาง ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ โฆษกกระทรวงมหาดไทย ลูกสาว ลงหาเสียงในพื้นที่ฐานเสียงบ้านเกิด  ทั้ง “อำเภอกันทรลักษ์ อำเภอขุนหาญ  และอำเภอภูสิงห์” เรียกกันได้ว่า เดินเท้าบุกพื้นที่ เคาะประตูถึงหน้าบ้าน  ขอคะแนนเสียงจากชาวบ้านกันเลยทีเดียว โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยอบอุ่น คึกคัก เป็นกันเอง ตลอดเส้นทางพี่น้องต่างให้การต้อนรับอย่างดี  นอกจากนี้ ยังเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่  โดยหาเสียง และพูดถึงนโยบายด้านการศึกษาของเรา ที่มุ่งเน้นการพัฒนาคน เสริมสร้างศักยภาพของลูกหลานชาวศรีสะเกษให้เป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถในแต่ด้านการพัฒนาทักษะ และองค์ความรู้  ในการช่วยเติมเต็มความฝันของลูกหลานชาวศรีสะเกษ

นายวิชิต กล่าวว่า  อำเภอภูสิงห์ เป็นอำเภอเกษตรกรรม การค้า และการท่องเที่ยว ชาวภูสิงห์ส่วนใหญ่ยังประกอบอาชีพเกษตรกร แต่เนื่องจากเป็นอำเภอที่ติดกับชายแดน และมีจุดผ่านแดนถาวร ทำให้การค้าในอำเภอแห่งนี้มีความคึกคัก นอกจากนี้ วัดดังๆในอำเภอภูสิงห์ ยังเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยว ทำให้ภูสิงห์ เป็นหนึ่งในอำเภอที่คนนิยมเดินทางมาเที่ยวตลอดทั้งปี  ตนนำนโยบายหนึ่งที่ตอบโจทย์ชาวภูสิงห์ นั่นก็คือ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และที่ผ่านมา ก็ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทุกวันนี้ ถนนหนทางไปสู่ภูสิงห์ สะดวกสบายมากขึ้น และตนเชื่อว่า จะตอบโจทย์ชาวภูสิงห์ในระยะยาว ตอบสนองทั้งการเกษตร การค้า การท่องเที่ยวและอื่นๆ ที่จะช่วยให้ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวภูสิงห์ดีขึ้น

ขณะที่อำเภอขุนหาญ เป็นแหล่งผลิตผลไม้ขึ้นชื่อของศรีสะเกษ มีทั้งเงาะและทุเรียน พี่น้องเลยสนใจนโยบายเกษตรนำชีวิต เศรษฐกิจมั่นคงเป็นพิเศษ โดยนโยบายนี้เป็นการพัฒนาต่อยอดสินค้าการเกษตร รวมถึงนำนวัตกรรมสมัยใหม่มาใช้ เพื่อเพิ่มมูลค่า สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรอย่างยั่งยืน โดยความยั่งยืนนี้ ถือเป็นหัวใจสำคัญในการทำนโยบายของ เพราะตนไม่ได้ต้องการแก้ไขปัญหาแค่ชั่วครั้งชั่วคราว แต่เราต้องการแก้ไขปัญหาในระยะยาวเพื่อวางรากฐานที่ดีให้กับ ชาวศรีสะเกษ

นายวิชิต  กล่าวต่อไปว่า ศรีสะเกษ มีสินค้าการเกษตรขึ้นชื่อหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น หอม กระเทียม ผลไม้อย่าง ทุเรียน เงาะ มังคุด ฯลฯ มีเส้นทางการคมนาคม ที่สะดวก สะอาด สวยงามขึ้นมาก ถนนหลายสายได้ปรับการพัฒนา ปรับปรุง และอีกหลายเส้นทางเป็นถนนตัดใหม่ เพื่อรองรับการขยายตัวของชุมชน  อีกทั้งยัง ยังเป็นเมืองแห่งเทศกาลครับ เรามีการจัดกิจกรรมแต่ต้นปียันท้ายปีเลยทีเดียว ทำให้เมืองแห่งนี้มีสีสัน มีความคึกคักตลอดทั้งปี  ในอดีตบ้านเราเป็นจังหวัดยากจนที่สุด แต่วันนี้ ไม่แพ้จังหวัดอื่นๆในอีสาน แนวทางการพัฒนา เน้นความยั่งยืน และการจะพัฒนาแบบยั่งยืนได้ ก็ต้องมาจากความร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจของคนท้องถิ่น เหมือนกับความร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

หากจะถามว่าตัวเองอยากหยุดพักไหม?  คือต้องการหยุดพักนะ แต่ยังต้องตามหาเด็กรุ่นใหม่ ที่เป็นชาวศรีสะเกษ ให้ลงมาสู้ และลงมาทำตรงนี้ ซึ่งตนพร้อมที่จะสนับสนุน โดยไม่ต้องเป็นลูกหลานของตนก็ได้ แต่ขออย่างเดียวให้เป็นคนท้องถิ่น ขอให้เป็นคนศรีสะเกษ ซึ่งในครั้งนี้ตนจะขอดูอีกสักครั้งจนกว่าเด็กรุ่นใหม่จะเติบโตขึ้นมา ทำหน้าที่ตรงนี้ได้  ตนก็พร้อมที่จะหลีกทาง ตำแหน่งนี้ไม่ใช่ของเรา ที่เราจะต้องเอา มันไม่ใช่  นายวิชิต กล่าวทิ้งท้าย....