ผู้สื่อข่าว รายงานการหาเสียงเลือกตั้ง นายก อบจ.และ ส.แบจ.ที่จะมึขึ้นในวันที่ 1 กุมภาพันธุ์ 2568 ที่จะถึงนี้ โดยผู้สมัคร นายก อบจ.มีทั้งหมด 5 คน ต่างก็หาจุดขายของตัวเองลงมาสู้ เช่นเดียวกับ ดร.ชูพงศ์ คำจวง อดีตนายก อบจ.สกลนคร ที่ขอโอกาสรักษาแชมป์ไว้ โดยงัดเอานโยบายที่จับต้องได้ เช่นโครงการถนนผลไม้ โครงการซื้อเครื่องจักรก่อสร้างถนนเอง และที่กลายเป็นไวรัลไปแล้วก็คือโครงการสวนสัตว์เปิดแห่งใหม่ที่ภูพาน จ.สกลนคร ของ ดร.ชูพงศ์ คำจวง ผู้สมัคร นายกอบจ.เบอร์ 2 หัวหน้ากลุ่มพัฒนาสกลนคร ซึ่งบอกว่าได้บรรจุโครงการสร้างสวนสัตว์เปิดแห่งใหม่ที่เทือกเขาภูพาน โดยจะร่วมมือกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ผลปรากฏว่าเมื่อคราวนี้กระจายออกไป ทำให้ชาวบ้านชอบใจเป็นอย่างมาก

โดย ดร.ชูพงศ์ กล่าวว่า ถ้าตนได้รับเลือกตั้งเป็น นายก อบจ.อีกครั้งหนึ่ง จะทำให้แล้วเสร็จภายในเวลา 4 ปี ดร.ชูพงศ์ ยังกล่าวว่าจังหวัดสกลนครเป็นจังหวัดที่ไม่มีทางรถไฟวิ่งผ่าน แม้จะมีสิ่งดีๆในบ้านเมืองมากมาย เช่น หนองหารซึ่งเป็นทะเสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน แต่การท่องเที่ยวยังไม่ถึงจุดมุ่งหมาย ดังนั้นการสร้างสวนสัตว์เปิดแห่งใหม่ที่เทือกเขาภูพาน จึงเป็นอีกมิติหนึ่งที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวยังจังหวัดสกลนครอีกทางหนึ่ง สำหรับการพัฒนาการท่องเที่ยวที่เราหานั้นตนเองก็ได้วางโครงการไว้แล้วเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมาขณะนี้กำลังก่อสร้างอยู่ทุกวัน โดยจะมีอุทยานธรรมะ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต อค์งใหญ่ประดิษฐานไว้ตรงนั้นด้วยคาดว่าการพัฒนาตรงนี้ถ้าสำเร็จทะเลสาบหนองหารก็จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวเคียงคู่กันกับสวนสัตว์เปิดแห่งใหม่ที่ภูพานด้วย
   
ดร.ชูพงศ์ เบอร์ 2 ยังกล่าวอีกว่าในอดีตตนักท่องเที่ยวที่มาชมงานแห่ปราสาทผึ้งที่จังหวัดสกลนคร มานมัสการพระธาตุเชิงชุมหลวงพ่อองค์แสน เมื่อมาแล้วอาจจะไปชมงานไหลเรือไฟต่อที่จังหวัดนครพนม แต่นักท่องเที่ยวเหล่านั้นก็ตีรถกลับมาพักค้างที่จังหวัดสกลนคร แต่ในปัจจุบันนี้เมื่อเขามาเที่ยวชมแห่ประสาทผึ้งแล้วเขาก็ไปนอนที่จังหวัดนครพนมเลย ตนจึงพยายามที่จะสร้างแหล่งท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเพื่อให้นักท่องเที่ยวเหล่านั้นพักค้างที่ จ.สกลนครหลายวันอาจจะเป็นการช่วยให้เศรษฐกิจของจังหวัดดีขึ้นในการท่องเที่ยว ซึ่งหากโครงการนี้ทำสำเร็จเช่นโครงการพัฒนาหนองหาร โครงการสวนสัตว์เปิดที่เทือกเขาภูพานและโครงการถนนผลไม้ตนเชื่อว่าจะมีเม็ดเงินไหลเข้าสู่จังหวัดสกลนครปีละหลายร้อยล้านบาทจึงอยากขอโอกาสจากพี่น้องชาว จ.สกลนคร ไปสานต่องานที่ทำค้างไว้เพื่อประโยชน์สุขของชาวสกลนคร ดร.ชูพงศ์ กล่าว