วันศุกร์ ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 12:32 น.

ภูมิภาค

รู้ตัวแล้ว! พ่อแม่เด็กที่เอาลูกมาทิ้ง เป็นเยาวชนไม่ได้ตั้งใจ

วันจันทร์ ที่ 03 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568, 10.26 น.

อำเภอบ้านด่าน / ตำรวจรู้ตัวแล้ว พ่อแม่ที่เอาลูกมาทิ้งในป่ากล้วย เป็นเยาวชนอายุ 16 และ 17 ปี สอบแล้วน่าจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์เพราะกลัวพ่อแม่รู้


วันที่ 2 ก.พ. 68 กรณีนางแส โสมกุล อายุ 75 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45 ม.1 บ้านปลัดปุ๊ก ต.วังเหนือ อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ ไปตัดใบตองกล้วยเพื่อที่จะเอาไปห่อหมกหนูนาแล้วไปพบทารกเพศชายแรกเกิด ซึ่งคาดว่าเพิ่งคลอดได้ไม่กี่ชั่วโมง นอนอยู่ใต้โค่นต้นกล้วยสภาพถูกมดกัดเต็มตัว ก่อนเจ้าหน้าที่จะนำตัวไปปฐมพยาบาลที่โรงพยาบาลบ้านด่าน


ต่อมา พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ สมกิจศิริ ผกก.สภ.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน สั่งให้ตำรวจชุดสืบสวนเร่งติดตามพ่อแม่เด็กซึ่งคาดว่าอยู่ไม่ไกลจากพื้นที่พบเด็กทารก จนกระทั่งทราบตอบมาว่า เป็นเยาวชนอายุ 16 ปีกับ 17 ปี ยอมรับว่าเป็นพ่อแม่ของเด็กสาเหตุที่นำไปทิ้งเพราะ ไม่กล้านำเรื่องไปบอกให้พ่อแม่ทราบ


นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี เล่าว่า แอบคบหาเป็นแฟนและมีความสัมพันธ์กับ น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ซึ่งอยู่ต่างหมู่บ้านนานกว่า 1 ปี โดยไม่ยอมบอกให้ผู้ปกครองทั้ง 2 ฝ่ายทราบเพราะกลัวโดนตำหนิคืนเกิดเหตุ น.ส.บี ได้มานอนที่บ้านตนเอง ได้บอกว่าปวดท้อง ขอลุกไปเข้าห้องน้ำ สักพัก น.ส.บี ก็กลับมานอนตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนมาทราบข่าวว่ามีคนเอาเด็กทารกทิ้งที่ป่ากล้วย ข้างบ้าน และน.ส.บี แฟนสาวได้เล่าให้ฟัง จึงนำเรื่องดังกล่าวไปปรึกษาผู้ปกครองทั้ง 2 ฝ่าย แล้วพามาหาตำรวจ ที่สภ.บ้านด่าน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ


ด้าน น.ส.บี (นามสมมุติ) เล่าว่าตนเองอาศัยอยู่กับยาย คืนเกิดเหตุได้มานอนบ้านแฟน แล้วเกิดปวดท้องจึงเข้าห้องน้ำระหว่างทำธุระเสร็จ เด็กได้หลุดออกมาเอง ยอมรับว่าตนเองไม่รู้ว่าตั้งท้อง ด้วยความตกใจ ได้นำลูกไปวางไว้ที่โค่นต้นกล้วย ใกล้บ้านและเฝ้าดูตลอดเวลา


เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าทั้งสองคนไม่มีที่ปรึกษาระหว่างการตั้งท้องและไม่มีความรู้ความเข้าใจในการป้องกัน จึงปล่อยให้ท้องโตและหาทางออกไม่ได้จึงตัดสินใจนำลูกมาทิ้งโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์


อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะทำการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งโดยจะให้นักจิตวิทยามาร่วมสอบสวนและเยียวยาสภาพจิตใจเด็กโดยเฉพาะผู้ปกครองเด็ก ผู้ปกครองจะต้องทำความเข้าใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อหาแนวทางการแก้ไขต่อไป โดยอาการของแม่เด็กมีอาการตกเลือด ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด

 

หน้าแรก » ภูมิภาค