วันพฤหัสบดี ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 13:53 น.

ภูมิภาค

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ หลังเจอหมายจับพร้อมพวกรวม 10 หมาย มูลค่าความเสียหาย 41 ล้าน

วันอังคาร ที่ 04 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568, 16.15 น.

4 กุมภาพันธ์ 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.สมบูรณ์ สีแดง ผู้กำกับ สภ.นครไทย พร้อมชุดสืบสวน ชุดป้องกันฯและจราจร สภ.นครไทย พร้อมอาวุธครบมือเกือบ 30-40 นาย เปิดยุทธการหักขาไก่ โดยสนธิกำลังตั้งแต่เช้ามืดที่หน้า สภ.นครไทย


หลังจากคราวแล้ว (16 พ.ย.67) ปฎิบัติการ “ฟ้าสางที่นาบัว” จับกุมนายสมศักดิ์ นายก อบต.นาบัว ซึ่งเป็นประธานธนาคารหมู่บ้านน้ำทวน ยอดเสียหาย 107 ล้านบาท แต่ครั้งนี้ เป็นการจับกำนันหญิง แหนบทองคำปี 2563 คือนางบุญลาม ต.นาบัว อ.นครไทย ซึ่งมีตำแหน่งประธานกองทุนหมู่บ้านพร้อมกับสามี ซึ่งเป็นกรรมการก็ถูกจับกุมด้วยทั้งคู่  


พ.ต.อ.สมบูรณ์ สีแดง ผู้กำกับ สภ.นครไทย สั่งตำรวจทุกนายเตรียมความและตรวจสอบอาวุธประจำกาย หากมีการต่อสู้ขัดขวางเพราะเคยเปิดปฎิบัติการจับกุมนายกฯคราวแล้ว แต่ครั้งนี้เป็นการจับกุมกำนัน ย้ำไม่ให้ใช้ความรุนแรง หากมีการโต้เถียงจึงค่อยดำเนินการภายหลัง ซึ่งการเปิดยุทธการหักขาไก่ ได้แบ่งกำลังออกเป็น 4 ชุด ตามหมายจับ 10 หมาย ของศาลแขวงนครไทย กระจายกำลังตำรวจไปจับกุมระแวกหมู่บ้าน นาไก่เขี่ย ต.นาบัว อ.นครไทย

 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชุดแรกพุ่งเป้าจับกุม ตามหมายจับเลขที่ 10 /68 ศาลแขวงนครไทย ลงวันที่ 3 ก.พ.68 โดยไม่ต้องมีหมายค้นเนื่องจากเป็นเจ้าบ้าน ซึ่งเป็นบ้านของแกนนำ คือ กำนันลาม หรือ นางบุญลาม จากนั้นกำลังชุดอื่นได้กระจายกำลังไปตามจับ สามารถจับกุมภายในบ้าน 9 คนและเดินทางมามอบตัวที่ สภ.นครไทย 1 คน ระหว่างที่เจ้าหน้าที่บุกไปบ้านประธานกองหมู่บ้านกำนันลาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกชื่อ “กำนันฯ” แต่ทำให้สามีกำนันซึ่งออกมาก่อน จากนั้น กำนันลามก็ออกมารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายจับ ซึ่งทั้งคู่อยู่ในชุดลำลองกางเกงขาสั้น โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อ่านหมายจับทำให้กำนันนิ่งไปพักหนึ่ง จากนั้นได้รู้ตัวว่าจะต้องถูกจองจำจึงเข้าโผกกอดแม่และร่ำไห้ถึงชะตากรรม โดยไม่มีอาการโวยวายต่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ กล่าวเพียงว่า ผู้กำกับสภ.นครไทย ทำไปตามหน้าที่ จากนั้นกำนันและสามีได้ขึ้นรถตู้ของตำรวจไปยังห้องสืบสวน สภ.ไทยทันที 


ส่วนอีก 9 หมายเป็นกรรมการกองทุนหมู่บ้าน โดยผู้ต้องหาที่ 1 มีตำแหน่งเป็นประธานกองทุนฯ ส่วนผู้ต้องหาคนอื่นๆ เป็นคณะกรรมการ มีความผิดข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน โดยการโฆษณา หรือ ประกาศ แก่บุคคลตั้งแต่สิบคนขึ้นไปในการกู้ยืมเงิน และจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่กฏหมายระบุไว้ ซึ่งปฏิบัติการวันนี้มีผู้เสียหายแจ้งความไว้จำนวน 140 คน มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท.

หน้าแรก » ภูมิภาค