มีรายงานว่า นาวาเอก อธิคม เลาหะกุล ผู้อำนวยการกองอสังหาริมทรัพย์ ฐานทัพเรือสัตหีบ  พร้อมด้วย นายนิเวศน์ พึ่งกุศล ปลัดอำเภอสัตหีบ เจ้าหน้าที่ กองช่าง งานเทศกิจทศบาลตำบลเกล็ดแก้ว และ อบต.พลูตาหลวง ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบแนวเขาหมู่ที่ 11 ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นรอยต่อระหว่าง อบต.พลูตาหลวง และเทศบาตำบลเกล็ดแก้ว หลังมีประชาชนร้องเรียน ว่าพบมีการขุดดิน ถมดิน ในพื้นที่ และยังพบมีการนำรถแม็คโคร เข้ามาขุดเขา พื้นที่ทรงสงวนกองทัพเรือและใช้รถสิบล้อขนดินออกไป จึงได้สนธิกำลังลงตรวจสอบ

จากการตรวจสอบพบพื้นที่ดังกล่าวอยู่บริเวณกลางหุบเขา มีถนนลูกรังและเสาปูนไฟฟ้าปักเข้าไปตามถนน จากปากทางเข้าไป ประมาณ เกือบ 2 กม. โดยภายในพื้นที่มีการขุดดินปรับพื้นหน้าดินขนาดใหญ่ บริเวณชายเขาพบมีร่องรอยการใช้รถแม็คโครขุด  แต่ไม่พบใครแสดงตนเป็นเจ้าของที่ ส่วนรถแม็คโครและรถสิบล้อได้เคลื่อนย้ายออกไปก่อนที่เจ้าหน้าที่ชุดตรวจสอบจะมาถึงเพียง 10 นาที

นาวาเอก อธิคม เลาหะกุล ผู้อำนวยการกองอสังหาริมทรัพย์ ฐานทัพเรือสัตหีบ เผยว่า ได้รับแจ้งจากชาวบ้านมีรูปถ่าย มีวีดีโอ ว่ามีเครื่องจักรกำลังขุดเขา และมีการขุดไปแล้ว จึงติดต่อประสานงานหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องร่วมสำรวจ ตรวจสอบ เบื้องต้นเข้ามาพบว่ามีลักษณะพื้นที่ ที่กว้างใหญ่

ในขั้นตอนการตรวจสอบได้ให้ จนท.ของกองอสังหาริมทรัพย์ ลงพื้นที่เก็บค่าพิกัดทั้งหมด ในส่วนที่เป็นอาคาร สิ่งปลูกสร้าง ก็จะเก็บทั้งหมดเพื่อทำแผนที่ภาพใหญ่ และก็จะไปสอบถามกับทางสำนักงานที่ดิน ในเรื่องของระหว่างค่าพิกัดที่ดิน ที่เจ้าของมีกรรมสิทธิ์ และก็จะมาดูว่าอยู่ในท้องที่ของส่วนราชการไหน มีการขออนุญาตหรือใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ถ้าถูกก็ไม่ว่ากัน ถ้าผิดก็ต้องมาดูว่า ขออนุญาตให้ถูกได้หรือไม่ หรือความผิดมันสำเร็จแล้ว ไม่สามารถทำได้ ก็เป็นขอบเขตอำนาจในส่วนของท้องถิ่น
 

แต่ในส่วนของที่ดินก็จะไปตรวจสอบในส่วนของที่ดินทรงสงวน ที่ภูเขาเป็นที่ปริมณฑลเขา ที่หวงห้าม  ถ้าเข้าไปทำประโยชน์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากกองทัพเรือก็จะดำเนินการในส่วนนี้ แจ้งความดำเนินคดีที่บุกรุก ที่ภูเขา ที่ปริมณฑลเขา ซึ่งต้องใช้เวลาดำเนินการตรวจสอบ ประมาณ 2 วันในการเก็บข้อมูลทั้งหมดหลังจากนั้นก็จะเชิญส่วนราชการมาพูดคุย ที่ฐานทัพเรือสัตหีบ ในภาพรวม หลังจากที่เก็บข้อมูลครบ ในเบื้องต้นก็จะแบ่งมอบงาน โดยให้ จนท.ทหาร เทศบาลเกล็ดแก้ว และ อบจ.พลูตาหลวง ร่วมเดินสำรวจ เพื่อเก็บค่าพิกัดทั้งหมด  ซึ่งต้องรอการตรวจสอบเรายังไม่กล่าวโทษและกล่าวหาใคร 

ถ้าหากพบว่าเป็นพื้นที่ทรงสงวนจริง ก็จะมีการนำหลักฐาน ภาพถ่าย รถแม็คโครและรถสิบล้อ ที่เรามี ตอนกำลังขุด ไปตรวจสอบและแจ้งความดำเนินคดี ทั้งหมด ร่วมถึงทางเทศบาลและ อบต. กำลังตรวจสอบ พื้นที่ไหนใครรับผิดชอบ และตรวจสอบว่ามีการขอการอนุญาติขุดดินและถมดิน หรือไม่ ร่วมถึงตรวจสอบว่ามีการขออนุญาติปลูกสร้างอาคาร ด้วยหรือไม่ หากพบว่าไม่มี ก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

มีรายงานว่า ก่อนที่เจ้าหน้าที่ทั้งหมด จะเข้าไปตรวจสอบได้มีคนขับรถยนต์เข้าไปแจ้งให้ รถแม็คโครและรถสิบล้อ ที่กำลังขุดแนวเขา ทราบเรื่อง ก่อนจะรีบเคลื่อนย้าย เครื่องจักรหลบหนีไป เพื่อแค่ 10` นาที ก่อนเจ้าหน้าที่จะถึง ซึ่งเจ้าหน้าที่มีหลักฐานบันทึกภาพไว้หมดแล้ว อยู่ระหว่างตรวจสอบกลุ่มนายทุนและเจ้าของรถแม็คโครและรถสิบล้อแล้ว รอเพียงการยืนยันว่าเป็นที่พื้นที่ทรงสงวนหรือไม่ ถ้ารุกก็จะดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีในทันที