วันอาทิตย์ ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2568 02:57 น.

ภูมิภาค

สุพรรณบุรีเผาไร่อ้อยเย้ยกว่า 1000 ไร่มาตรการห้ามเผาของรัฐบาล

วันพฤหัสบดี ที่ 06 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568, 09.52 น.

ที่จังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อเวลาประมาณ 03.30 น.วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 ได้เกิดเหตุไฟไหม้ไร่อ้อยที่ หมู่ 11 ตำบลหนองมะค่าโมง อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจาก อบต.หนองมะค่าโมง และ ดับน้ำดับเพลิงจาก เทศบาลตำบลหนองกระทุ่ม ได้เข้าควบคุมฉีดน้ำดับไฟไม่ให้ลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียง แต่เนื่องจากพื้นที่มีจำนวนมากกว่า 100 ไร่ทำให้การดับเพลิงเป็นไปด้วยความยาก ใช้เวลาเกือบ  6 ชั่วโมงจึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ในวงจำกัด

 

 

ล่าสุดช่วงบ่ายวันนี้นายวสันต์ จี้ปูคำ  เกษตรจังหวัดสุพรรณบุรี นายธง กาฬภักดี นายกเทศมนตรีตำบลหนองกระทุ่ม พร้อมรถน้ำดับเพลิง  เทศบาลหนองกระทุ่ม รถน้ำ อบต.หนองมะค่าโง และรถน้ำจากโรงงานน้ำตาลมิตรผล  เข้าช่วยกันดับไฟ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจึงสามารถดับไฟที่กำลังลุกไหม้เอาไว้ได้

 

 

สอบถามเจ้าของไร่อ้อย ที่ถูกไฟไหม้เปิดเผยว่าตนทำไร่อ้อยส่งงานทั้งหมดรวมของลูกไร่ด้วย 700 กว่าไร่ ก่อนหน้านี้ช่วงต้นปีได้เกิดไฟไหม้ไร่อ้อยเสียหายนับ 1,000 ไร่ด้วยฝีมือคนเผา ซึ่งเผาอยู่จุดเดียวแต่ไฟได้ลามไหม้ไปยังไร่อ้อยที่อยู่ติดกัน เสียหายเป็นวงกว้าง และเมื่อช่วงเวลาประมาณ 03.30 น.ตนได้รับแจ้งผู้ใหญ่บ้านว่ามีไฟไหม้ไร่อ้อยของตนก็รีบมาดูพบไฟกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรงผู้ใหญ่บ้านได้ประสานรถน้ำ จากหลายที่มาช่วยดับ

 

 

หลังจากที่รัฐาบาลประกาศห้ามเผา ก็ยังมีคนลักลอบเผา แบบไม่เกรงกลัวกฎหมาย ลักษณะการจุดของมือเผา จะจุดหลายๆที่ เพื่อให้ไฟไหม้ลามได้รวดเร็วไม่ให้เราดับได้ ส่วนสาเหตุที่เกษตรกรส่วนใหญ่ในพื้นที่นี้ต้องเผาเพราะ พื้นที่ไร่เป็นหินรถตัดลงไม่ได้ ชาวไร่อ้อยก็อยากระบายอ้อยออกให้ไว ส่วนของตนไม่มีปัญหา เพราะถ้าแปลงไหนรถตัด ตัดไม่ได้ก็ใช้คนตัด ส่วนไร่อ้อยของตนถูกเผาวันนี้ประมาณ 50 ไร่ก็ไม่อยากโทษใครเพราะ ไฟได้ไหม้มาจากไร่คนอื่นแล้วลามเข้าไร่ของตน ซึ่งก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนจุดแต่การจุดการเผาเป็นการสร้างรวามเสียหายและสร้างความเดือดร้อนให้ชาวไร่อ้อยคนอื่นที่ไม่ต้องการเผาอ้อย แล้วยังสร้างมลพิษทางอากาศอีกด้วย

หน้าแรก » ภูมิภาค