ตามที่มีข่าวปรากฏทางสื่อสังคมออนไลน์ว่ามีเด็ก 10 ขวบ ในพื้นที่ ม.5 ต.ทอนหงส์ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช พ่อแม่ชวนเสพยาบ้าจนติดงอมแงม นายสมชาย ลีหล้าน้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช มีความห่วงใยต่อสวัสดิภาพของเด็กและเยาวชนเป็นอย่างยิ่ง จึงได้สั่งการให้นางสาวพิมพ์รภัช ทิพย์ชวานนท์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครศรีธรรมราช  เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อช่วยเหลือตามขั้นตอนโดยด่วน โดยทางสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครศรีธรรมราชได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วพบว่าครอบครัวดังกล่าว มีพฤติกรรมตามที่ได้รับการร้องเรียนจริง 

ต่อมา เจ้าหน้าที่ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ประสานกับทางญาติ นายอำเภอพรหมคีรี ตำรวจ ผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม.และ อพม.พื้นที่ ต.ทอนหงส์ อ.พรหมคีรี เข้าช่วยเหลือ ปรากฏว่าเมื่อกำลังเจ้าหน้าที่เดินทางถึงบ้านพบว่า นายวีระยุทธ หรือ ตาโอ และนางสาวธนยดา หรือ ฝน  พ่อและแม่ ได้วิ่งหลบหนีไปก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครศรีธรรมราชได้พบเด็กชาย เอ นามสมมุติ  อยู่ในบ้านกับนางกอบกุล ขอสงวนสกุล อายุ 64 ปี ผู้เป็นยาย  โดยนางกอบกุล กล่าวยอมรับว่า นางสาวฝน ลูกสาวของตน และนายตาโอ ลูกเขย ชักชวนน้องซิม เสพยาจริง และเสพหลายครั้งแล้ว นอกจากนี้ยังชวนน้องซิม ไปซื้อยาบ้าอีกด้วย จนทำให้ ดช.เอ นามสมมุติ วัย 10 ขวบ ไม่กล้าไปเรียนหนังสือที่โรงเรียน 

โดยสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครศรีธรรมราชได้ลงพื้นที่ไปที่บ้านของเด็กเอ นามสมมุติและได้สอบถามปากคำจากยายและญาติทราบว่าเป็นเหตุการณ์จริง ซึ่งทาง สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครศรีธรรมราชได้เกลี่ยกล่อมให้ ด.ช.เอ นามสมมุติ กลับไปเรียนหนังสือเหมือนเดิม เนื่องจากน้องเป็นเด็กเรียนเก่งและเป็นหัวหน้าห้องด้วย ซึ่งเด็กก็รับปากว่าจะเรียนหนังสือเหมือนเดิมและเลิกพฤติกรรมเสพยาเสพติดโดยเด็ดขาด เบื้องต้นทาง เจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครศรีธรรมราช ฝ่ายปกครองอำเภอพรหมคีรี จะให้เด็กยังคงพักอาศัยอยู่กับยายและครอบครัวเหมือนเดิมโดยไม่ได้พาไปอยู่บ้านพักเด็กแต่อย่างใด

หลังจากนี้ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครศรีธรรมราช จะได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมของ ด.ช. เอ นามสมมุติ อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง หากมีพฤติกรรมดีขึ้นสามารถไปเรียนหนังสือได้ตามปกติ ทางสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครศรีธรรมราช จะได้ดูแลช่วยเหลือตามขั้นกฎหมายต่อไป ส่วนตัวพ่อแม่เด็กที่ติดยาเสพติดด้วยกันและยังหลบหนี ทางนายอำเภอพรหมคีรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พรหมคีรี จะได้ติดตามตัวพ่อแม่ของเด็กมาเข้าทำการบำบัดรักษาตัวต่อไป