สืบเนื่อง ร.อ.ธนากร บึงเหล็ก ผู้บังคับกองร้อยหน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2103 กรมเฉพาะกิจทหารพรานที่ 21 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี (ผบ.ร้อย ฉก.ทพ.2103 ฉก.ทพ.21 กกล.ฯ) ได้ควบคุมตัวผู้เสพยาบ้ารายหนึ่ง บริเวณกระท่อมสวนปาล์มพื้นที่ 6 บ้านนาเพียง หมู่ ต.ไชยบุรี อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม พร้อมซัดทอดว่าได้ซื้อยาบ้าจากนายบี๋ ซึ่งเป็นคนบ้านท่าดอกแก้ว ต.ท่าจำปา อ.ท่าอุเทน ในราคาเม็ดละ 70 บาท ถ้าซื้อ 3 เม็ด 200 บาท และยังได้โทรให้นายบี๋มาส่งยาบ้าที่กระท่อมในช่วงเช้าของวันที่ 26 กุมภาพันธ์ จำนวน 9 เม็ด ราคา 600 บาท แต่ถูกเจ้าหน้าที่ทหารพรานมาควบคุมตัวไว้ก่อนได้รับยาบ้า

หลังจากนั้น ร.อ.ธนากร นาเหล็ก ผบ.ร้อย.ฉก.ทพ.2103 ได้ประสานฝ่ายปกครองอำเภอท่าอุเทน ร่วมประชุมวางแผนเพื่อจับกุมตัวนายบี๋ผู้ค้ารายย่อยรายนี้โดยละม่อมคาหลักฐาน จึงให้เจ้าหน้าที่ทหารพรานนายหนึ่ง สลัดชุดทหารพรานสวมเสื้อผ้าปลอมตัวเป็นชาวสวนปาล์ม ทำทีนั่งหันหลังอ่านหนังสืออยู่หน้ากระท่อม กระทั่งเวลาประมาณ 08.30 น. นายบี๋บุคคลเป้าหมายได้ขับรถจักรยานยนต์ เข้ามาจอดหน้ากระท่อมพร้อมทักทายอย่างคนคุ้นเคย เพราะคิดว่าชายที่นั่งหันหลังนั้นเป็นลูกค้าขาประจำ โดยน้ำเสียงทักทายของนายบี๋เหมือนคนเมายา พร้อมส่งถุงยาบ้าให้และแบมือขอเงินค่ายา แต่พอเห็นหน้าก็ตกใจเพราะไม่ใช่ลูกค้า นายบี๋พยายามจะเดินหนี เจ้าหน้าที่ที่ซุ่มอยู่บริเวณใกล้เคียง จึงแสดงตนเข้าจับกุมตัว ทราบชื่อจริงคือนายนครชัย อายุ 40 ปี อยู่บ้านท่าดอกแก้ว หมู่ 6 ต.ท่าจำปา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม  

เบื้องต้นนายบี๋ให้การยอมรับว่า ตนเพิ่งเสพยาบ้ามาก่อนหน้านี้จำนวน 2 เม็ด  จากนั้นก็ขับรถจักรยานยนต์คู่ชีพ ออกมาส่งลูกค้าตามออเดอร์ที่สั่ง โดยยาบ้าบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีน้ำเงิน จำนวน 202 เม็ด เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเชื่อว่า อาจมียาบ้าซุกซ่อนอยู่อีก จึงนำตัวนายบี๋ไปตรวจค้นบ้านพักหมู่ 6 บ้านท่าดอกแก้ว ต.ท่าจำปา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม พบยาบ้าเพิ่มอีกจำนวน 11 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในพรมเช็ดเท้าที่วางอยู่หน้าบ้าน รวมยาบ้าทั้งหมดเป็น 213 เม็ด จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงนำตัว นายบี๋เอเยนต์ยาบ้ารายย่อย พร้อมของกลางมาที่ฐานปฏิบัติการ เพื่อทำการสอบสวน และขยายผลที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด

นายบี๋ให้การว่ารับยาบ้ามาจากนายทุนชาวลาวในราคา 3 เม็ด 100 บาท นำไปขายต่อ 3 เม็ด 200 บาทกำไรครึ่งต่อครึ่ง แถมนายทุนยังให้ยาบ้าเสพฟรีอีก 10 เม็ด ทำทีออกเรือไปหาปลา และส่งมอบกันกลางแม่น้ำโขง โดยจะรับยามาในปริมาณน้อย ทั้งซุกซ่อนได้ง่าย เป็นการตบตาเจ้าหน้าที่ไปในตัวด้วย ซึ่งการจำหน่ายยาบ้าจะขายให้ในกลุ่มเพื่อนที่เคยเสพ หรือมั่วสุมด้วยกันมาก่อน ลักลอบขายมาประมาณ 4 เดือนก็ถูกจับดังกล่าว และผลการตรวจปัสสาวะนายบี๋เป็นม่วง

เจ้าหน้าที่ได้กล่าวโทษว่าจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย-เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย เป็นผู้ขับขี่ยานพาหนะขณะมีสารเสพติดในร่างกาย นำของกลางและผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอุเทน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป