"ร.ร.อนุบาลขอนแก่น"จัดพิธีมอบประกาศนียบัตรแก่นักเรียนโรงเรียนอนุบาลขอนแก่น ผู้ผ่านการอบรม โครงการการศึกษาเพื่อต่อต้านการใช้สารเสพติดในนักเรียน (D.A.R.E ประเทศไทย) ประจำปีการศึกษา 2567 เพื่อควบคุมการขยายตัวและลดการระบาดของยาเสพติดในสถานศึกษา และชุมชน อีกทั้งเพื่อปลูกฝังจิตสำนึกของเด็กนักเรียน และเยาวชน ให้มีความรู้ ความเข้าใจและตระหนักถึงพิษภัยยาเสพติด ที่มีต่อร่างกาย สุขภาพอนามัย และส่งผลกระทบต่อสังคม ตลอดจนความมั่นคงของชาติ
 

วันนี้ 3 มี.ค. 68 ที่ โรงเรียนอนุบาลขอนแก่น นายประจวบ ศิริภักดิ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลขอนแก่น เป็นประธานในพิธีมอบประกาศนียบัตรแก่นักเรียนโรงเรียนอนุบาลขอนแก่น ผู้ผ่านการอบรม โครงการการศึกษาเพื่อต่อต้านการใช้สารเสพติดในนักเรียน (D.A.R.E ประเทศไทย) ประจำปีการศึกษา 2567 โดยมีร้อยตำรวจตรี ณรงค์ สุขเจริญ รองสารวัตรสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น ,ร้อยตำรวจเอกหญิงสภาพรรณ ลำเหลือ รองสารวัตร ฝ่ายอำนวยการกองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 4 ,นายศักดา มุสิกวัน ,นางสาวดุษณียา บุดดานอก รองผู้อำนายการโรงเรียนอนุบาลขอนแก่น, คุณครูนันท์นกัส ทองดี หัวหน้าสายชั้น ป.5 ,คณะครูสายชั้นประถมศึกษาปีที่ 5และนักเรียนที่น่ารักเด็กดี ทุกคน ร่วมงานอย่างพร้อมเพียง

ร้อยตำรวจตรี ณรงค์ สุขเจริญ รองสารวัตร สถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น กล่าวว่า ขอขอบพระคุณนายประจวบ ศิริภักดิ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลขอนแก่น ประธานฯอย่างสูงยิ่ง ที่ให้เกียรติมาเป็นประธาน ในพิธีมอบประกาศนียบัตรแก่นักเรียนโรงเรียนอนุบาลขอนแก่น ผู้ผ่านการอบรม โครงการ การศึกษาเพื่อต่อต้านการใช้สารเสพติดในนักเรียน (D.A.R.E ประเทศไทย) ประจำปีการศึกษา 2567 ในวันนี้การดำเนินโครงการ การศึกษาเพื่อต่อต้านการใช้สารเสพติดในนักเรียน (D.A.R.E. ประเทศไทย) มีวัตถุประสงค์ เพื่อ
 

1. เพื่อสนองนโยบายของรัฐบาลในการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด 2. เพื่อควบคุมการขยายตัวและลดการระบาดของยาเสพติดในสถานศึกษา และชุมชน 3. เพื่อปลูกฝังจิตสำนึกของเด็กนักเรียน และเยาวชน ให้มีความรู้ ความเข้าใจและตระหนักถึงพิษภัยยาเสพติด ที่มีต่อร่างกาย สุขภาพอนามัย และส่งผลกระทบต่อสังคม ตลอดจนความมั่นคงของชาติ 4. เพื่อเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันแก่นักเรียน ให้ห่างไกลจากยาเสพติด และ 5. เพื่อสร้างแกนนำนักเรียนต่อต้านยาเสพติดในสถานศึกษา ผู้เข้าร่วมโครงการ ประกอบด้วย ผู้บริหาร คณะครูและนักเรียน โดยมีนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/1 - 5/8 จำนวน 373 คนระยะเวลาดำเนินการ ระหว่างเดือน พฤศจิกายน 2567 ถึง กุมภาพันธ์ 2568

กิจกรรมดำเนินโครงการประกอบไปด้วยเนื้อหา 13 บทประกอบด้วยบทที่ 1 วัตถุประสงค์และภาพรวมของหลักสูตร D.A.R.E ,บทที่ 2 บุหรี่กับนักเรียน, บทที่ 3 ม่านควัน ,บทที่ 4 เหล้ากับนักเรียน, บทที่ 5 ความจริง, บทที่ 6 รากฐานของมิตรภาพฃ, บทที่ 7 การรรวมทุกสิ่งเข้าด้วยกัน, บทที่ 8 การกระทำของแต่ละคน, บทที่ 9 ฝึก ฝึก และฝึก, บทที่ 10 โรงพักของเรา ,บทที่ 11 การป้องกันอาชญากรรมด้วยตนเอง, บทที่ 12 ความรู้เกี่ยวกับจราจร และบทที่ 13 กิจกรรมพิเศษ เพื่อทบทวนบทเรียน เป็นกิจกรรมที่สร้างความภาคภูมิใจให้กับนักเรียน D.A.R.E. โดยนักเรียนจะได้เขียนความภาคภูมิใจของตนเองผ่าน "เรียงความ" และได้คัดเลือกความภาคภูมิใจของนักเรียน เพื่อรับรางวัลในวันนี้
 

"ผลจากการดำเนินโครงการ จากการตอบแบบประเมินความพึงพอใจ ต่อการอบรมให้ความรู้เพื่อต่อต้านยาเสพติดในเด็กนักเรียน(โครงการแคร์)ประจำปีการศึกษา2567 พบว่า นักเรียนมาความพึงพอใจในระดับ มากที่สุด ตามลำดับ ซึ่งบรรลุวัตถุประสงค์ทุกประการ"
 

ด้าน นายประจวบ ศิริภักดิ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลขอนแก่น กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้มาเป็นประธาน ในพิธีมอบประกาศนียบัตรให้แก่นักเรียน ผู้ผ่านการอบรม โครงการ "การศึกษาเพื่อต่อต้านการใช้สารในนักเรียน (โครงการแดร์) ประจำปีการศึกษา 2567" ในวันนี้จากการกล่าวรายงานของท่านร้อยตำรวจตรี ณรงค์ สุขเจริญ ทำให้ทราบถึง วัตถุประสงค์ การดำเนินการ รวมทั้งผลการดำเนินการ ซึ่งถือว่า เป็นความโชคดีของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่ได้รับความรู้ ความเข้าใจและตระหนักถึงพิษภัยของสารเสพติดต่างๆ จึงถือว่า ได้รับภูมิคุ้มกันที่ดี

ซึ่งปัญหายาเสพติดนับเป็นปัญหาสำคัญของสังคม ที่ทำให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมามากมาย ทั้งปัญหาอาชญากรรม, เศรษฐกิจ, การทำร้ายร่างกาย, การทะเลาะวิวาท รวมทั้งปัญหาด้านสุขภาพด้วย ดังนั้น หน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนจึงพยายามป้องกัน และแก้ไขปัญหานี้อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด

ยาเสพติดนั้นสร้างผลกระทบอย่างมากมายมหาศาลต่อสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเยาวชนซึ่งกำลังติบโตไปเป็นกำลังกำลังสำคัญของชาติ ด้วยปัจจัยหลายอย่างที่เป็นตัวกระตุ้นและชักนำให้พวกเขาต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับวงจรของยาเสพติด ไม่ว่าจะเป็นปัญหาครอบครัว ปัญหาเศรษฐกิจ การหลุดออกจากระบบการศึกษา ความอยากรู้ อยากลอง อยากมีตัวคน เป็นที่ยอมรับของกลุ่มเพื่อน รวมทั้งสภาวะจิตใจที่ไม่แข็ง

ดังนั้น โจทย์สำคัญ ก็คือ การให้ความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง ทำให้การอยากรู้ อยากลองของพวกเขา เป็นอยู่ในขอบเขตและเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ ครอบครัวเป็นหัวใจสำคัญ ที่จะเป็นเกราะป้องกัน และทำให้เยาวชนผ่านพ้นปัญหาต่างๆ ไปได้ ทุกคนต่างรับรู้ว่ายาเสพติดนั้นส่งผล กระทบร้ายแรงเพียงใด ดังนั้น จึงไม่ควรเข้าไปเกี่ยวข้องไม่ว่าจะในกรณีใดก็ตาม
 

จากข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เกี่ยวกับเด็กอายุ 14 -18 ปี ที่อยู่ในสถานพินิจในคดียาเสพติดทั่วประเทศ พบว่า วิธีที่จะป้องกันให้เด็กและเยาวชนห่างไกล จากวงจรยาเสพติด ผู้อำนวยการขอนำมามา ป.5 ทุกคน ด้วยการใช้หลักง่ายๆ 4 ต้อง ดังนี้ 1.ต้องมีอนาคต-เด็กและเยาวชนต้องการมีสัมมาอาชีพ ต้องการมีอนาคตของตัวเอง ต้องศึกษาเพื่อการดำรงชีวิตและสร้างอนาคต ประกอบ สัมมาอาชีพ  2.ต้องมีคุณค่า-เด็กและเยาวชนต้องการการยอมรับจากสังคม ต้องพัฒนาให้รู้จักตัวตนและตระหนักถึงคุณค่าของตัวเอง เห็นคุณค่าจากสิ่งที่ถนัด และความสามารถที่มีอยู่3.ต้องมีทักษะ-เด็กและเยาวชนต้องการทักษะชีวิต ต้องการแบบฝึกหัดชีวิต ตั้งคำถามฝึกให้คิด แทนการอบรม สั่งสอน ทำให้รู้เท่าทันและรู้จักปกป้องตนเอง4.ต้องมีแบบอย่างที่ดี-เด็กและเยาวชนต้องการใครสักคนที่จะเป็นแบบอย่างในชีวิตของเรา ซึ่งหมายถึงใครก็ได้ที่พวกเราฝากชีวิตไว้ได้ และนำพาพวกเราให้เติบโตไปในทิศทางที่ดี เช่น พ่อแม่ ครู อาจารย์ เป็นต้น

สิ่งที่จะช่วยเป็นภูมิคุ้มกันให้เยาวชนพ้นภัยยาเสพติดที่ที่สุด คือ วัคซีนทางสังคม ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว สถาบันการศึกษา ชุมชน สิ่งแวดล้อม จะต้องร่วมมือร่วมใจ สร้างพื้นที่ปลอดภัยและมีคุณภาพให้กับเยาวชน รับฟังปัญหาและความรู้สึกของพวกเขา อย่างเข้าใจและไม่ตัดสิน ทำให้พวกเขาตระหนักถึงคุณค่าของตัวเอง ลงมือสร้างอนาคต ด้วยมือของเขาเอง โดยมีความรัก ความเข้าใจจากครอบครัวและสังคมรอบข้างคอยผลักดันและสนับสนุนให้พวกเขาเติบโตอย่างมีคุณภาพและมีความสุขบนเส้นทางที่พวกเขาต้องการ
 

"ท้ายนี้ ของขอบคุณ ครูตำรวจแดร์ ทั้ง 2 ท่าน ที่ดำเนินโครงการ "ด้วยศรัทธา อาสาด้วยใจ" ตามคำปฏิญาณตนไว้ ท่านได้ให้ภูมิคุ้มกันสารเสพติดให้แก่เด็กๆ สำเร็จแล้ว, ขอขอบคุณคณะครูสายชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ทุกท่าน ที่ช่วยดูแลลูกๆ ให้เป็นเยาวชนที่ดี และที่สำคัญ ขอขอบใจนักเรียน ที่ตั้งใจ ให้เรียนรู้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการศึกษาหลักสูตร แคร์ จะเป็นภูมิคุ้มกันให้ลูกๆพ้นภัยจากสารเสพติดทุกชนิด ขออำนวยอวยพรให้ทุกท่าน ประสบแต่ความสำเร็จ ความเจริญและความสุขในการดำรงชีวิตในสังคม ปัจจุบันและอนาคต สืบไป"นายประจวบ กล่าว.