วันอังคาร ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2568 15:56 น.

ภูมิภาค

จ.เลย สุดยอด หาดูยาก 4 นักเรียนชายเมืองเซไล เลิกเรียนรวมกลุ่มทอผ้าฝ้าย ผ้าไหม ขายระหว่างเรียนกำลังรุ่งไปได้ดี

วันพุธ ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2568, 13.52 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงเรียนเซไลวิทยาคม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเลย-หนองบัวลำภู อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย มีภาพกิจกรรมของนักเรียนที่สืบทอดเรื่องราวดีๆ จากรุ่นสู่รุ่น อนุรักษ์ภูมิปัญญาทอผ้าพื้นเมือง เซไล จากในครอบครัวสู่โรงเรียน สู่ท้องถิ่น ไม่ให้จางหายพร้อมกับ เรียนรู้เพิ่มเติมที่ได้จากโรงเรียน โดยการลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ สู่การปฏิบัติ และสามารถมีอาชีพเสริม เพื่อสร้างอนาคตหลังจากจบการศึกษา เป็นตนแบบนักเรียนที่ดี ควรส่งเสริมสนับสนุน พร้อมสืบทอดเป็นทายาทหม่อนไหม ไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เรื่องราวดีแบบนี้ เกิดขึ้นกับเยาวชน 4-5 คน รวมกลุ่มกัน ทอผ้าฝ้าย ผ้าไหม ครบวงจร สร้างรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว มี นายวีรภัทร สุขสมบูรณ์ นักเรียนชั้น ม.5/1 (เจท) ประธานกลุ่ม นายรังสิมันต์ บุตนัย ม.4/1 (บอส) นายอภิวิชญ์ หวังหมู่กลาง ม.3/1 (เวีย) และนายธนากร ทองสุทธิ์ อาร์ต ม.3/1 ทำหน้าที่ ดูแลแปลงและช่วยสาวไหม,ทอผ้า
 

 

นางสาวพิชญาภัค สายปัญญา ผู้อำนวยการโรงเรียนเรียนเซไลวิทยาคม กล่าวว่า นักเรียนกลุ่มนี้เมื่ออยู่ที่โรงเรียนช่วงว่างจากเรียนก็จะช่วยกันมาทอผ้า เข็นฝ้าย พอที่จะช่วยกันคนละอย่าง ซึ่งกิจกรรมส่วนนี้ เป็นโครงการที่เรียกว่าทายาทหม่อนไหม สืบเนื่องมาจากเมื่อเด็กกลุ่มนี้ ว่างก็จะเดินทางมาที่ห้องฝึกทักษะงานอาชีพ เพื่อใช้เวลาว่างโดยการมารวบรวมความคิด รวมกลุ่มกันทำผ้าฝ้าย ผ้าไหม ตามภูมิปัญญา จากบ้าน แล้วเอามาต่อยอด กลับไปที่บ้านแล้วก็สามารถนำผลผลิตหรือผ้าในรูปแบบต่างๆนั้น นำจําหน่ายให้มีรายได้ระหว่างเรียน ซึ่งก็เป็นนโยบายของทางกระทรวงศึกษาธิการ ว่าอยากให้นักเรียนเขาสามารถที่จะเรียนรู้จากโรงเรียน แล้วก็หารายได้ระหว่างเรียนได้ เป็นการสนับสนุนส่งเสริม โรงเรียนก็ส่งเสริมในเรื่ององค์ความรู้เรื่อง วัสดุอุปกรณ์ที่จะเด็กๆ ต้องการ เพราะฉะนั้นเด็กๆกลุ่มนี้จะมีความสนใจในการนำภูมิปัญญาพื้นบ้านนำมาประยุกต์เพื่อนำไปใช้ให้เกิดประโชย์ และรวมกลุ่มกันอยู่เหนียวมาหลายปีแล้ว ซึ่งทางโรงเรียนนั้นได้มีการมีเชิญวิทยากรจากภายนอกมาช่วยในความรู้พร้อมการนําเสนอ ซึ่งได้กรมหม่อนไหม เขามาด้วยในโครงการ ทายาทหม่อนไหม ของศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ เลย
 

 

ปัจจุบันเด็กๆกลุ่มนี้ มีการเลี้ยงไหมที่บ้าน และมีการปลูกฝ้าย ปลูกหม่อน ในโรงเรียนตามพื้นที่ริมถนนภายในโรงเรียน มีการปลูกหม่อนเอาใบหม่อนไปเลี้ยงไหมที่บ้าน ซึ่งหลังเลิกเรียนก็จะนำหม่อนกลับบ้านและไปแยกกลุ่มกันทอผ้าไหม ผ้าฝ้ายต่อกันที่บ้าน และทำกิจวัตรที่บ้าน และปัจจุบันมีการรวมตัวกันเป็นกลุ่มที่ชื่อว่า กลุ่มทอผ้าบ้านห้วยทรายคำ พร้อมเปิด Facebook จำหน่ายสินค้า และทางโรงเรียนนั้น จะคอยประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อส่งเสริมสนับสนุน อีกทางหนึ่ง
    

นายวีรภัทร สุขสมบูรณ์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ปีที่ 5/1 ประธานกลุ่ม ทายาทหม่อนไหม เซไลวิทยาคม (กลุ่มทอผ้าบ้านห้วยทรายคำ) ตำบลศรีสงคราม อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย เล่าให้ฟังว่า เริ่มต้นนั้นค่อยข่างลำบากมาก เริ่มแรกกลุ่มพวกเราต้องการที่จะทอผ้าลายเกล็ดเต่า มาถอดแบบจากในหมู่บ้านใกล้เคียง แต่มีเงินไม่เพียงพอที่จะซื้อด้าย 4 กิโลกรัม เลยไปรวมสมทบร่วมกับ คุณยายที่เป็นเพื่อนบ้าน โดยเก็บเงินคนละ 270 บาทและรวมกันได้ทั้งหมด 540 บาท.จึงนำไปซื้อด้ายมา 4 กิโลกรัม หลังจากนั้นเมื่อซื้อด้ายมาเสร็จ จึงได้ทำการค้นเส้นยืน จากนั้นก็มาสืบทีละเส้นแล้วก็ทำการทอ และเมื่อทดลองทอเสร็จออกมาก็มีคนสนใจมากอยู่พอสมควร ตอนนั้นขายผืนละ150 บาท ก็ขายได้ทั้งหมด 7 ผืน ได้เงินทั้งหมด 1,050 บาทจึงหักเงินส่วนที่ลงทุนไป 540 บาท เอาไว้เป็นกองกลาง ส่วนที่เหลือคือของพวกเรา
 

 

ในส่วนของโรงเรียนนั้นทางโรงเรียนมีฐานการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ก็คือ คาบเรียน ที่ 6 หรือ 7 ในแต่ละวัน เป็นช่วงว่างจากการเรียน ซึ่งทางโรงเรียนของเราได้ใช้ความสำคัญเกี่ยวกับการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ในฐานการเรียนรู้ทายาทหม่อนไหมเซไลวิทยาคม มีทั้งหมด 4 กิจกรรมได้แก่ กิจกรรมการทอผ้า การเลี้ยงไหม การแปรรูปอาหาร และการปลูกหม่อนรดนํ้าพรวนดินใส่ปุ๋ย ซึ่งทางโรงเรียนก็ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี มีการได้ออกงานกับชุมชนอย่างเช่นการไปจัดนิทรรศการในงานฤดูหนาวอำเภอวังสะพุง 2 ครั้ง และเดินทางไปจัดนิทรรศการ เกี่ยวการทอผ้า ที่ห้างเซ็นทรัล จังหวัดอุดรธานี (ศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ เลย) มีสมาชิกเข้าไปแข่งขันการสาวไหมที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น (สำนักงานเกษตรอำเภอวังสะพุง) และไปแข่งที่เขต 2 จังหวัดอุดรธานี (ศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ เลย) ในส่วนของรายได้ที่ได้จากกิจกรรมนี้ อย่างเช่นการทอผ้า เมื่อเราเริ่มทอผ้าก็ได้มีการโพสต์ลงเพจ เฟซบุ๊กของกลุ่มเรา แล้วก็มีผู้ที่สนใจก็ได้สั่งจองเข้ามาเรื่อยๆ จนมีรายได้เพิ่มขึ้นมากพอสมควร
    

นายประยูร อรัญรุท รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย กล่าว หลังเดินทางลงพื้นที่ โรงเรียนเซไลวิทยาคม ว่าในส่วนของการส่งเสริมการทำผ้าไหมผ้าฝ้ายของจังหวัดเลยนั้น เมื่อเดินทางมาเห็นกิจกรรมของนักเรียนกลุ่มนี้ แล้วรู้สึกว่าเป็นกิจกรรมที่ดีมาก เพราะว่ามีการสืบสานรักษาต่อยอดการทอผ้าทำฝ้ายทำไหมจากรุ่นสู่รุ่น ปู่ย่าตายายพ่อแม่และส่งมาถึง รุ่นลูกหลานเพื่อจะสืบทอดในเรื่องของวิถีชีวิตความเป็นอยู่ เพื่อสร้างงานสร้างรายได้สร้างอาชีพในช่วงเรียน เด็กนักเรียนสามารถที่จะพัฒนาตัวเองได้ในการฝึกอาชีพ
 

 

ในส่วนของนโยบายของจังหวัดเลยเองนั้น ท่านผู้ว่าราชการจังหวัด นายชัยพจน์ จรูญพงศ์ ท่านพยายามที่จะชูเมืองเลยนั้นเป็นเมืองผ้าฝ้าย ซึ่งท่านก็จะส่งเสริมการทอทำผ้า ฝ้าย ให้ เป็น เอกลักษณ์ อัตลักษณ์ ของจังหวัดเลย ก็เพราะว่าเรามีตำนวนว่าเมืองเลย เมืองแห่งดอกฝ้าย ซึ่งทุกปีเราจะมีการจัดงาน ประจําปี คือ งานดอกฝ้ายบานสืบสานวัฒนธรรมไทยเลย ซึ่งกิจกรรมของเด็ฏหกลุ่มนี้ตอบโจทย์ ของการจัดงานประจําปี งานดอกฝ้าบบ้านนั้นเป็นส่วนหนึ่ง ในการส่งเสริมตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง ปลายทาง ต้นทางก็คือการผลิตเรื่องของการปลูกฝ้าย หรือหม่อนไหม ซึ่งเราจะมีหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อยู่ก็คือ ศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ เลย อำเภอวังสะพุง
    

นอกจากนั้นก็มีศูนย์ศิลปาชีพ ที่ผาบ่าว ผาสาว ให้การสนับสนุนซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นภูมิปัญญาของพี่น้องประชาชน พ่อแม่ผู้ปกครองแล้วก็สามารถสืบทอดเรียนต่อหาความรู้เพิ่มเติม เพื่อที่จะเข้าไปศึกษาต่อยอดไปได้ในการส่งเสริมอาชีพ และส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ดีที่ได้เห็นเด็กนักเรียนกลุ่มนี้ เข้ามาทํากิจกรรม ทุกอย่างที่ทำเป็นการเรียนรู้ช่วงเวลาว่าง แล้วนำประกอบอาชีพตัวเองได้ มาฝึกทักษะอาชีพ แล้วก็ไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของยาเสพติด นั่นคือเป็นสิ่งที่ดี น่าเชิดชู น่าส่งเสริมและให้สนับสนุนเด็กนักเรียนที่ทำแบบนี้


สนใจ ติดต่อสอบถามรายละเอียด คุณเจท 0981490685 กลุ่มทอผ้าบ้านห้วยทรายคำ หรือ นางสาวพิชญาภัค สายปัญญา ผู้อำนวยการโรงเรียน 0945397424 หรือ 0895701732 ครูธนพร https://www.facebook.com/share/1AH9Aoty9u/

 

หน้าแรก » ภูมิภาค