วันอังคาร ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 16:05 น.

ภูมิภาค

ส่องเลขธูป “พระธาตุเงา” วัดสำราญใต้

วันอาทิตย์ ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2568, 20.09 น.

วัดสำราญใต้ หรือวัดธาตุบ้านสำราญ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง ต.อาจสามารถ อ.เมือง จ.นครพนม ก่อสร้างขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ. 8 ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่ก่อสร้างพระธาตุพนม ตำนานเล่าว่าบริเวณใกล้เคียงนี้ มีพระธาตุจำนวน 2 องค์ หนึ่งอยู่ที่ดอนโดน ฝั่งประเทศลาว เชื่อว่าเป็นพระธาตุของพระอานนท์ สาวกของพระพุทธเจ้า ปัจจุบันพังเสียหายไปหมดแล้ว ส่วนอีกองค์อยู่ที่วัดสำราญใต้แห่งนี้ เป็นของพระพุทธเจ้า เดิมเรียกว่าพระธาตุเงาหรือทับเงา เนื่องจากขณะนั้นพระองค์ทรงหันหน้าไปทางทิศตะวันออก แล้วเงาของพระองค์ตกอยู่บริเวณนั้น ศาสนิกชนจึงพร้อมใจสร้างพระธาตุขึ้นตรงที่มีเงาพระองค์ท่าน ภายหลังเปลี่ยนมาเรียกตามชื่อวัดว่าพระธาตุวัดสำราญใต้


ทั้งนี้ วัดสำราญใต้มีประวัติศาสตร์เชื่อมโยงยาวนานกว่า 2,000 ปี มีศิลาจารึกหินทรายสีแดง รูปใบเสมาที่แตกเป็นสามส่วน จารึกด้วยอักษรขอมเนื้อหาโดยสังเขปเกี่ยวกับการประกาศขอบเขตวัด และการสาปแช่งผู้ถือสิทธิ์ครอบครองทำลายทานวัตถุ โดยกรมศิลปากรประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถาณบ้านสำราญ ในราชกิจจานุเบกษา ลงวันที่ 8 มีนาคม 2478

 


ภายในโบสถ์มีพระประธานนามว่าพระองค์ตื้อ พระพุทธรูปปูนปั้นศิลปะล้านช้าง และพระติ้ว พระเทียมจำลอง เพราะแต่เดิมองค์จริงประดิษฐานอยู่ตามข้าโอกาสชาวสำราญ ก่อนจะย้ายไปประดิษฐานที่วัดโอกาส(ศรีบัวบาน) เขตเทศบาลเมืองนครพนม เป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของชาว จ.นครพนม จนถึงปัจจุบัน


บริเวณริมแม่น้ำโขงนอกกำแพงวัด มีศาลเพียงตาเจ้าพ่อหมื่นตั้งอยู่  ตามตำนานเล่าว่าจมื่นรักษาราษฏร์ หรือจ่าหมื่นเป็นนายกองเมืองต่างพระเนตรพระกรรณพระเจ้าศรีโคตบูรหลวง ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต จึงเป็นที่รักใคร่ของประชาชน ท่านเป็นทั้งแพทย์แผนโบราณ และมีวิชาอาคมอยู่ยงคงกระพันชาตรี บังกายหายตัว รวมทั้งเป็นต้นศรัทธาให้ชาวเมืองนครพนม (บ้านโพธิ์ค้ำในอดีต) ร่วมแรงร่วมใจสร้างวัดศรีบัวบานหรือวัดโอกาสในปัจจุบัน

 


จมื่นรักษาราษฎร์ในวัยอายุ 90 ปีเศษ วันหนึ่งลูกหลานไปได้แต่ไข่ขนาดโตเท่าไข่ห่านในแม่น้ำโขง ท่านบอกให้นำไข่ดังกล่าวหมกให้กิน หลังกินแล้วเกิดร้อนรนกระวนกระวาย กระหายน้ำ จ่าหมื่นจึงลงไปอาบน้ำโขง ดำผุดดำว่ายนานสองนาน พร้อมร้องขอผ้าแดง 1 ผืนมาโพกศีรษะ แล้วดำหายไปในน้ำโขง ลูกหลานช่วยกันงมหาแต่ไม่พบ ขณะนั้นปรากฏมีเงือกงูใหญ่ตัวหนึ่งผุดขึ้นมา พระเจ้าศรีโคตรบูรหลวงทราบข่าวรีบเสด็จลงเรือ ตรัสกับเงือกงูใหญ่ตัวนั้นว่า “จมื่นฯเอ๋ยแกเป็นคนดี เมื่อแกมรณกรรมแล้วยังห่วงประชาชนอยู่ ขอให้แกรักษาทางน้ำทางบกตลอดใต้สุดและเหนือสุด ตั้งแต่ผาใด ผาด่าง ถ้ำใต้ถึงแก่งหลี่ผีสีพันดอนเป็นเขตบก ทิศตะวันออกจรดภูเขาไม้ล้มแบ่ง ทิศตะวันตกถึงภูเขาดงพญาไฟ ให้แกไปอยู่ที่หางดอนโดน เดือน 6 ปีใหม่ทุกปีจะเซ่นไหว้ดวงวิญญาณ” จากนั้นพระองค์จึงนำข้าวสุก 1 ปั้น ไข่ต้ม 1 ฟองให้เงือกงูใหญ่ก็กิน ก่อนจะดำน้ำจมหายไป กลายเป็นผีมเหศักดิ์หลักเมืองของนครศรีโคตบูรนับแต่นั้นมา


ซึ่งจากเปิดเผยของนายแดง ชัยชา อายุ 57 ปี ผู้เป็นร่างทรงเจ้าพ่อหมื่น เล่าว่าหากท่านประทับร่างจะเริ่มมีอาการแน่นหน้าอก หลังเข้าร่างแล้วถ้าท่านดีใจน้ำตาจะไหลตลอด หรือบางทีก็ขนลุกตะโกนร้องดังสุดเสียง ลักษณะนี้เคยเจอ 3 ครั้งร้องเหมือนพญานาค แต่ตอนนั้นตนไม่รู้สึกตัว ฟังจากคนรอบกายเล่าให้ฟัง ปีที่ผ่านมาท่านไม่ได้ประทับร่าง การประทับทรงก็ไม่มีพิธีรีตองอะไร แม้ตนจะพยายามหลีกเลี่ยง ท่านก็ตามไปเข้าร่างถึงบ้าน พระอาจารย์บอกท่านจ่าหมื่นมาอาศัยร่างเฉพาะผู้บริสุทธิ์ มีความซื่อสัตย์เท่านั้น

 


นอกจากนั้นแล้วยังกล่าวกันว่าบริเวณวัดสำราญใต้ เป็นเขตดวงจิตของพญาศรีสัตตนาคราช ตามคัมภีร์อุรังคนิทานที่พระพุทธเจ้าสมณโคดมเสด็จมากับพระอานนท์ องค์พญาศรีสัตตนาคราชทรงขอรับพระบาทด้วยแผ่นหลัง และตั้งสัจจะดูแลพุทธศาสนาที่นี่ตลอดกาล


ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หน้ากระถางปักธูปเทียน หน้าองค์พระธาตุทับเงา หรือพระธาตุเงา หรือพระธาตุวัดสำราญใต้ มีธูปเสี่ยงทายปักอยู่ 1 ดอก ปรากฏเลข 3-0-7 เพื่อใช้เป็นแนวทางเสี่ยงโชคลอตเตอรี่งวดประจำวันที่ 1 เมษายน 2568 ที่ผ่านมามีคนโชคดีติดต่อกันหลายงวดแล้ว

หน้าแรก » ภูมิภาค