ที่ห้องประชุมศรีปราชญ์ ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช นายชวกิจจ์ สุวรรณคีรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วย พล.ต.ต.จารุต ศรุตยาพร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช พล.ต.อนุวัฒน์ ธรรมจักร์ ผู้แทนแม่ทัพภาคที่ 4 พล.ต.ต.ศรัญญู ชำนาญ ผู้แทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 หัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนหน่วยงาน และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมคณะอนุกรรมการร่วมแก้ไขปัญหายาเสพติดเพื่อทำให้ประชาชนมีความสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ Zoom Meeting  โดยมี พล.อ.ธรรมนูญ วิถี รองผู้บัญชาการกองบัญชากรทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ (1) หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ เป็นประธานการประชุม โดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ชี้แจงผลการดำเนินงานตามนโยบายป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติดเพื่อทำให้ประชาชนมีความสุข ภายใต้ชื่อ “นครศรีโมเดล” ต่อที่ประชุมฯ ว่า จังหวัดนครศรีธรรมราช มีเป้าหมายประชากรในพื้นที่ อายุ 12-65 ปี ที่จะต้องดำเนินการ Re X-ray ตามแผนปฏิบัติการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด “นครศรีโมเดล” ทั้งสิ้น 863,414 ราย มีผลการ Re X-ray แล้ว 269,252 ราย คิดเป็นร้อยละ 31.18 คงเหลือ จำนวน 594,162 ราย พบผู้เสพ จำนวน 3,892 ราย คาดว่าภายในสิ้นเดือนเมษายน 2568 นี้ จะสามารถ Re X-ray ค้นหาผู้เสพได้ครบ 100% ก่อนคัดแยกผู้ป่วยและเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา

จังหวัดนครศรีธรรมราช จำแนกพื้นที่ตามความรุนแรงของปัญหายาเสพติดออกเป็น 3 พื้นที่ ประกอบด้วย 1) พื้นที่ไข่แดง จำนวน 1 อำเภอ ได้แก่ อำเภอปากพนัง ขณะนี้ ดำเนินการตรวจคัดกรองได้ 44,685 คน พบผู้เสพ 1,134 คน ขยายผลจากผู้เสพได้ผู้ค้า จำนวน 377 ราย ดำเนินคดีแล้ว 322 ราย ยึดอายัดทรัพย์สิน แล้ว 58 ราย มูลค่าทรัพย์สิน 36,277,700 บาท  2) พื้นที่ไข่ขาว จำนวน 9 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ท่าศาลา พรหมคีรี ลานสกา ทุ่งสง จุฬาภรณ์ ร่อนพิบูลย์ พระพรหม และอำเภอเฉลิมพระเกียรติ ขณะนี้ ดำเนินการตรวจคัดกรองแล้ว 124,078 คน พบผู้เสพ 1,341 คน ขยายผลจากผู้เสพได้ผู้ค้า จำนวน 130 ราย ดำเนินคดีแล้ว 83 ราย ยึดอายัดทรัพย์สินได้ 82 ราย มูลค่าทรัพย์สิน 16,043,920 บาท  และ 3) พื้นที่กระทะ จำนวน 13 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอขนอม สิชล นบพิตำ พิปูน ฉวาง ทุ่งใหญ่ ช้างกลาง นาบอน บางขัน ชะอวด ถ้ำพรรณรา หัวไทร และอำเภอเชียรใหญ่ สามารถดำเนินการตรวจคัดกรองแล้ว  100,489 คน พบผู้เสพ 1,417 คน  ขยายผลจากผู้เสพได้ผู้ค้า จำนวน 136 ราย ดำเนินคดีแล้ว 108 ราย ยึดอายัดทรัพย์สิน ได้ 108 ราย มูลค่าทรัพย์สิน 15,919,493 บาท ซึ่งการแก้ไขปัญหายาเสพติด ถือเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ที่ต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด และครบวงจร เริ่มตั้งแต่การตัดต้นตอการผลิตและจำหน่าย ด้วยความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน การสกัดกั้น ควบคุม การลักลอบนำเข้า และตัดเส้นทางการลำเลียงยาเสพติด การปราบปรามและการยึดทรัพย์ผู้ค้าอย่างเด็ดขาด การค้นหาผู้เสพในชุมชน เพื่อเข้าสู่กระบวนการรักษาตลอดจนการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด การฝึกอาชีพ การศึกษา และการฟื้นฟูสภาพทางสังคม รวมทั้งมีระบบติดตาม ดูแลช่วยเหลือ เพื่อไม่ให้กลับไปสู่วงจรยาเสพติดอีก เพื่อคืนคนคุณภาพกลับสู่สังคม