วันเสาร์ ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 00:22 น.

ภูมิภาค

เงินเยียวยาก้อนแรก ก.แรงงานส่งถึงมือญาติเหยื่อตึกถล่มแล้ว เหลืออีก 4 รายที่สูญหาย แม้ความหวังริบหรี่ แต่ขอให้มีปาฏิหาริย์

วันอังคาร ที่ 01 เมษายน พ.ศ. 2568, 21.02 น.

จากกรณีเกิดเหตุแผ่นดินไหว มีจุดศูนย์กลางใกล้เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมา แรงสั่นกระเทือนไปหลายจังหวัดของประเทศไทย รวมถึงกรุงเทพมหานคร ทำให้อาคารก่อสร้างสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เขตจตุจักร ขนาดความสูง 30 ชั้นพังถล่มลงมาทับคนงานก่อสร้าง ติดอยู่ในซากเศษปูนเกือบ 100 ชีวิต

ในจำนวนนั้นมีแรงงานชาวจังหวัดนครพนม จำนวน 5 คน ที่สูญหายภายในตึกดังกล่าว คือ 1.นายจักรกฤษณ์ ศิลารักษ์ อายุ 17 ปี บ้านเลขที่ 22 หมู่ที่ 6 บ้านคำสว่าง ต.วังตามัว อ.เมืองนครพนม  2.นายบุญรอด โอทาตะวงค์ หรือหลอด อายุ 33  ปี บ้านเลขที่ 221 หมู่ที่ 6 บ้านคำสว่าง ต.วังตามัว อำเภอเมืองนครพนม 3.นายเอกชัย อินทรักษ์ อายุ 22 ปี บ้านเลขที่ 45 หมู่ 16 ตำบลสามผง อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม 4.นายเนติพงษ์ พัฒทอง อายุ  29 ปี และ 5.นางสาวเพ็ญจมาร วงศ์ใจ อายุ 40 ปี พื้นเพเป็นคน จ.พิจิตร พี่สะใภ้ของนายเอกชัย

โดยวันที่ 30 มีนาคม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สามารถกู้ร่างนายบุญรอดออกจากซากปรักหักพังออกมาได้ หลังตรวจดีเอ็นเอตามขั้นตอนแล้ว จึงส่งมอบศพส่งให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศล โดยออกเดินทางจาก รพ.ตำรวจ ช่วงเย็นของวันที่ 31 มีนาคม ถึงบ้านเกิดเมื่อเวลา 02.30 น. วันที่ 1 เมษายน 68 ส่วนแรงงานอีก 4 ราย แม้ความหวังจะริบหรี่ แต่ก็ภาวนาให้มีปาฏิหาริย์

ต่อมา นางศิรัณ ธีรทัศน์ธำรงค์ ประกันสังคมจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย นางณัฐกฤตา ดาหาร แรงงานจังหวัดนครพนม นางสาววัชรี  เสมคำ สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดนครพนม นายวิระศักดิ์ แก้วบุดดา ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 41 นครพนม และ นางสาววรานิษฐ์ กีรติพงษ์เวคิน รักษาราชการแทน จัดหางานจังหวัดนครพนม ลงพื้นที่ให้กำลังใจและช่วยเหลือการจัดงานฌาปนกิจศพนายบุญรอด โอทาตะวงศ์ หรือหลอด ผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ จนทำให้ตึก สตง.ถล่ม

ซึ่งนายบุญรอดเป็นผู้ประกันตน จ่ายเงินสมทบประกันสังคมมิได้ขาด จึงได้เงินทดแทนจากกระทรวงแรงงาน โดยเสียชีวิตขณะทำงาน ทางกระทรวงได้ดำเนินการเยียวยาแก่ครอบครัวของผู้ประกันตน ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ตึกถล่มรายดังกล่าว โดยมีพ่อและแม่คือนายอุไร โอทาตะวงศ์ อายุ 62 ปี  นางสุดา โอทาตะวงค์ อายุ 63 ปี เป็นผู้รับเงินเยียวยาก้อนแรกนี้ ซึ่งมีการชดเชยรายละประมาณ 1,731,321.20 บาท แบ่งเป็นค่าทำศพ 50,000 บาท เงินบำเหน็จชราภาพ 1,321.20 บาท และเงินทดแทนกรณีเสียชีวิต 1,680,000 บาท

ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานได้จัดตั้งศูนย์ประสานงานช่วยเหลือแรงงานไทยและแรงงานข้ามชาติ เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง สามารถติดต่อได้ผ่านสำนักงานแรงงานจังหวัด รวมถึงสำนักงานเขต 12 แห่งในกรุงเทพฯ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ได้รับผลกระทบและครอบครัว

หน้าแรก » ภูมิภาค