วันเสาร์ ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 10:46 น.

ภูมิภาค

สพฐ.สั่งคกก.สืบข้อเท็จจริง ผอ.ใช้คำหยาบ-ไล่ครู สรุป 8 เม.ย.นี้ หากผิดจริงตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง

วันศุกร์ ที่ 04 เมษายน พ.ศ. 2568, 20.14 น.

วันที่ 4 มี.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ปราจีนบุรี จากกรณีมีการนำเสนอเป็นข่าวโด่งดังครึกโครมผ่านสื่อมวลชน หลังจากผู้ใช้เฟสบุ๊คโดยผู้ใช้ชื่อ Fahsai K-Kanokwan  ได้โพสต์คลิปรวมจำนวน 2 คลิป  คลิปแรกเป็นคลิปเสียง ผู้อำนวยการโรงเรียน ที่ติเตียนครูรวม 4 คนจะให้เป็นหมาหัวเน่า พร้อมระบุข้อความว่า  ....   ดิฉันก็ไม่รับไม่ได้ กับพฤติกรรมแบบนี้เช่นกันค่ะ...เลือกที่รักมักที่ชัง ยั่วยุ ปลุกปั่นให้เกิดความเกลียดชัง เกิดความแตกแยกสามัคคีในหมู่คณะครู (พอได้ฟังแล้วยิ่งสะเทือนใจสุดๆ)  หมาหัวเน่าก็มีหัวใจค่ะท่าน  ทุกวันนี้ยังงงอยู่เลยว่ากนกวรรณ ไปทำอะไรให้นักหนา ??ไม่ทราบจริงๆค่ะ ว่าท่านต้องการสิ่งใด แต่การโทรไป นินทา ว่าร้าย ผู้ใต้บังคับบัญชาแบบนี้ มันถูกต้องแล้วหรือ??พวกหนูต้องอดทนกับอะไรแบบนี้มานานมาก ไม่นับว่าครูเก่าๆที่ย้ายหนีไปที่ต้องเจออีกนะคะใครก็ได้ช่วยทีเถอะ ... แชร์ให้ถึงผู้ใหญ่ที่ สพฐ. ลงมาดูเรื่องนี้ทีค่ะ ขนาดผอ.ด่าครูว่า ”อย่าโชว์โง่“ ยังอยู่ไม่ได้เลย แต่นี่หนักกว่าอีกนะ จะไม่ช่วยพวกหนูหน่อยหรอคะ ???มีอีกเยอะค่ะ ที่ต้องเจอ. …

 

และ คลิปที่2 เป็นคลิปภาพวีดีโอ  ขณะผู้อำนวยการเป็นประธานในที่ประชุมครู  ได้กล่าวคำหยาบครูที่ขอย้ายต่อหน้าครูคนอื่น ๆ และไล่ให้ครูที่จอย้ายออกจากห้องประชุม   โดยระบุข้อความว่า   EP.2 เรื่องการย้ายก็อีกเรื่อง... คำอวยพรจากท่านแค่ฟังก็สะอื้นแล้วค่ะ ในที่ประชุมที่มีคณะครูมากมาย คนถูกไล่ออกจากห้องต้องทุกข์ใจแค่ไหนอยากสอนเด็กให้มีความสุข แต่ในขณะที่ครูต้องทนทุกข์ แล้วจะสอนให้ลูกๆมีความสุขได้อย่างไร 

 

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปราจีนบุรี เขต 1 ( สพฐ.) พบนายยุทธนา  สำราญกิจ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปราจีนบุรี เขต 1 ( สพฐ.) กล่าวว่า    กรณีเหตุการณ์ปรากฏคลิปเสียงที่ใช้วาจาที่ไม่เหมาะสมของผู้อำนวยการโรงเรียนในจังหวัดปราจีนบุรี ผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ ได้มีครูที่โรงเรียนรวมจำนวน 13 คน ได้ทำเรื่องร้องเรียนมาที่สำนักเขตพื้นที่การศึกษาปราจีนบุรี ( สพฐ.) เมื่อวันที่ 24 มี.ค.68 ซึ่งทาง ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปราจีนบุรี เขต 1 ( สพฐ.) ได้รับเรื่องร้องเรียนจากคณะครู จำนวน 13 คน กล่าวหาว่ามีผู้อำนวยการโรงเรียน มีพฤติกรรมส่อไปในทางทุจริต และประพฤติมิชอบหลายประการ  

 

สพฐ.ได้ออกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริง ในวันที่ 25 มี.ค.68  พร้อมกันนั้นทำหนังสือแจ้งให้ผู้อำนวยการโรงเรียนรายงานแจ้งร้องเรียนต่าง ๆ มีรวม 13 -14 ข้อให้สำนักงานเขตฯทราบพร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้อง ภายใน 15 วัน แต่ว่าช่วงที่ทาง ผอ.เขต  ให้ผอ.โรงเรียนรายงานให้ทราบ  ผอ.เข้าโรงเรียนแล้วอาจไปทำเอกสารเพิ่มเติม หรือมาพูดคุยกับครู  เลยทำให้ครูเกิดความไม่ปลอดภัยไม่สบายใจ เลยมีการปล่อยคลิปเสียงที่เป็นเอกสาร ส่งมาให้เขตก่อนแล้ว  เมื่อคืนวันที่ 31 มี.ค.68เป็นคลิปเสียง

 

วันที่ 1 เม.ย.68 ผอ.เขตมอบหมายให้ตนเองลงพื้นที่ไปสอบถามครูทั้ง 13 คน ว่ามีความไม่สบายใจอย่างไร พร้อมกันนั้นส่วน ผอ.โรงเรียนถูก ผอ.เขตฯได้สั่งให้ ผอ.โรงเรียนมาปฏิงานที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปราจีนบุรี ( สพฐ.) แล้ว  ไม่ได้ลงไปที่โรงเรียนแล้ว ซึ่งได้พยายามอธิบายกระบวนการให้ครูทั้ง 13 ท่าน เข้าใจว่า ได้ให้ผู้อำนวยการโรงเรียนรายงาน และให้ทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปราจีนบุรี ให้ตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงลงมาแล้ว อยากขอให้ให้เป็นตามกระบวนการหน่อยได้ไหม ซึ่งทางครูทั้ง 13 ท่านอาจมองว่าล่าช้า  เลยได้ปล่อยคลิปที่ 2 ออกมาอีก

 

ตอนนี้คณะกรรมการสืบฯได้ลงพื้นที่ไปแล้ว อยู่ระหว่างการจัดทำเอกสาร  เพื่อที่จะสรุปว่าท่าน ผอ.โรงเรียนมีความผิดไหม ถ้าผิดร้ายแรงหรือไม่  ซึ่งจะสรุปรายงานให้กับ ผอ.เขตในวันที่ 8 เม.ย.68 หากสรุปว่ามีความผิด วันที่ 9 เม.ย.68 ผอ.เขตจะตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงหรือไม่  แต่ตัวผอ.โรงเรียนคงไม่ได้กลับไปทำงานโรงเรียนแล้ว  นายยุทธนากล่าว

 

และกล่าวต่อไปว่า อยากฝากครูทั้ง 13 ท่านที่อยู่โรงเรียนตามที่ตนนำเรียนกระบวนการเป็นตามขั้นตอนตามระบบราชการ  อาจไม่ช้าในระบบ  แต่อาจช้าในความรู้สึกของครู ตนพยายามบอกให้เชื่อมั่นในระบบข้าราชการ ถ้าระบบราชการทำให้ไม่เชื่อมั่นสามารถไปร้องหน่วยงานอื่น ๆ ที่เขาจะทำได้ดีกว่านี้ เช่น นักข่าว  อยากให้รอกระบวนการในฐานะเราเป็นข้าราชการ  นายยุทธนากล่าวในที่สุด

หน้าแรก » ภูมิภาค