โจ๋กระบี่ชักปืนยิงใส่กระบะที่ขับตามหลัง จากนั้นถูกชนตกข้างทาง ดับ 1 เจ็บ 3 ยันสองฝ่ายไม่รู้จักกันมาก่อน ตร.เร่งสอบหาสาเหตุก่อนแจ้งข้อกล่าวหา

วันที่ 4 เม.ย. พ.ต.ท.วิทยา ทองคง รอง ผกก.สส. สภ.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ พร้อมชุดสืบสวน สภ.อ่าวนาง ชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.กระบี่ ชุดสืบสวน กก.3 บก.สส.ภ.8 เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.กระบี่ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุยิงกัน บริเวณถนนสายควนกินน้ำ-อ่าวนาง หมู่ 1 ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ ที่เกิดเหตุพบรถกระบะมิตซูบิชิ ตอนครึ่งสีดำ ทะเบียน บพ 1117 กระบี่ เสียหลักตกอยู่ในคูริมทาง ไม่ไกลริมทางฝั่งตรงข้ามพบรถจยย.ฮอนด้าเวฟสีส้มดำ ไม่ติดแผ่นป้ายสภาพพังยับ จนท.จึงตรวจยึดไว้ที่สภ.อ่าวนาง นอกจากนี้ยังตรวจยึดปืนพกสั้นดัดแปลง ใช้กระสุนขนาด 380 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุน 2 นัด ปลอก 1 ปลอกตกอยู่ในที่เกิดเหตุจึงยึดไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับนำตัวนายยอดรัก หนูพันธ์ อายุ 35 ปี ชาว จ.กระบี่ คนขับรถกระบะ พร้อมพวกมาสอบสวนที่สภ.อ่าวนาง

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 01.30 น.วันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา ช่วงเกิดเหตุ พ.ต.ต.พิทยา จริยานุกูล สว.สอบสวน สภ.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ รับแจ้งเป็นอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เสียหลักลงข้างทาง มีคนเจ็บหลายราย จึงประสานกู้ภัยมูลนิธิประชาสันติสุข เดินทางไปตรวจสอบ

เมื่อไปถึงพบคนเจ็บเป็นเด็กวัยรุ่น อายุตั้งแต่ 14-17 ปี จำนวน 4 คน อยู่ในป่าหญ้าตรงคูระบายน้ำข้างทาง จึงรีบนำคนเจ็บทั้งหมดส่ง รพ.กระบี่ โดย 1 ในนั้นได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อคือ นายรตนกร (สงวนนามสกุล) อายุ 16 ปี ส่วนอีกรายที่บาดเจ็บสาหัส คือ นายมูอัชซิล (สงวนนามสกุล) อายุ 15 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่ขาขวา 1 นัด

จากการสอบถาม นายยอดรัก หนูพันธ์ อายุ 35 ปี ชาว จ.กระบี่ คนขับรถกระบะ อาชีพเป็นช่างรับเหมาทั่วไป ให้การว่า คืนเกิดเหตุ ตนพร้อมด้วยเพื่อนคนงาน เพิ่งทำงานเสร็จจากพื้นที่ ต.อ่าวนาง กำลังขับรถจะกลับบ้านกัน พอมาถึงจุดเกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ของกลุ่มเด็กวัยรุ่น ซึ่งเป็นกลุ่มของผู้ตายขี่กันมา 2 คัน คันแรกซ้อน 4 เป็นเด็กผู้ชายล้วน คันหลังเป็นเด็กผู้ชายอีกคนพร้อมเพื่อนผู้หญิง ซึ่งตนขับรถตามหลังทั้ง 2 คัน จนใกล้ถึงจุดเกิดเหตุ จังหวะนั้น 1 ในกลุ่มวัยรุ่นที่ซ้อน 4 ชักปืนออกมายิงใส่รถของตน 3 นัด จังหวะนั้นตนตกใจจึงต้องก้มหัวหมอบขณะกำลังขับรถไปด้วย

ส่วนจะไปชนกับรถของเด็กวัยรุ่นหรือไม่ตนเองไม่ทราบ รู้ตัวอีกทีรถก็เสียหลักพุ่งชนคูระบายน้ำข้างทางแล้ว ซึ่งตนเองได้รับบาดเจ็บบริเวณใต้ดวงตา กระแทกกับพวงมาลัย ยืนยันว่าตนไม่ได้ขับรถไล่ชนกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวอย่างแน่นอน

ขณะที่เด็กวัยรุ่นหญิงที่มากับกลุ่มผู้ตาย ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ช่วงที่ตนพร้อมด้วยแฟนหนุ่ม และกลุ่มผู้ตายกำลังขี่รถเล่นกัน โดยตนซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของแฟน ส่วนผู้ตายซ้อน 4 กับเพื่อนอีกคัน ช่วงมาถึงที่เกิดเหตุ สังเกตเห็นว่ามีรถกระบะขับตามหลังมา ต่อมาเห็นผู้ตายซึ่งนั่งซ้อนเป็นคนที่ 2 อยู่กับรถ จยย.คันหน้า ชักปืนออกมายิงใส่รถกระบะ แต่กระสุนนัดแรกพลาดมาโดนแฟนตน จากนั้นรถของกลุ่มผู้ตายและแฟนของตนพยายามขี่หนี แต่เหมือนรถกระบะขับไล่ตามจนเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ

เบื้องต้นตำรวจสอบปากคำคนขับรถกระบะไว้ก่อน รวมทั้งเตรียมประสานสหวิชาชีพ รอสอบปากคำฝ่ายคนเจ็บทั้งหมดอย่างละเอียดอีกครั้ง เนื่องจากกลุ่มคนเจ็บเป็นกลุ่มเยาวชนทั้งหมด จึงยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาใดๆ กับทั้ง 2 ฝ่าย เพราะต้องสอบปากคำทั้งหมดรวมถึงพยานและหลักฐานในที่เกิดเหตุ เพื่อดูว่าฝ่ายไหนมีความผิดอย่างไรบ้าง

โดยชุดสืบสวนได้ภาพจากกล้องวงจรปิดใกล้กับจุดเกิดเหตุ เป็นนาทีที่ได้ยินเสียงปืน 2 นัดแรก จากนั้นจะเห็นรถของผู้ตายและรถกระบะขับตามกันมาอย่างเร็ว ก่อนจะมีเสียงปืนนัดที่ 3 และเสียงของรถประสบอุบัติเหตุ ซึ่งตำรวจจะใช้เป็นพยานหลักฐานสำคัญในการดำเนินคดี.