เมื่อเวลา 10.50 น. วันที่ 23 เม.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ปราจีนบุรี  มีหญิงสาวรายหนึ่งโพสต์ลง facebook โดยมีข้อความระบุว่า... "รู้สึกอัศจรรย์ใจที่บ้านระเบาะเกตุ อ.นาดี ผิดพลาดอันได๋ กะขอโทษขออภัยเด้อจร้า ลูกๆหลานๆมาขออาศัยอยู่นำซื่อๆ เดี๋ยวสิพาไปเฮ็ดบุญให้เด้อจร้า"...

จากนั้นได้ติดต่อไปยังผู้ที่โพสต์ลง facebook ซึ่งเจ้าตัวกับหลานชายให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องราวที่ชวนขนหัวลุกพบ น.ส.สมคิด ลูกอินทร์ กล่าวว่า  เมื่อวันที่ 18 เม.ย.68ที่ผ่านมาซึ่งเป็นวันพระแรม8ค่ำช่วงนั้นเวลาประมาณ 21:00 น.มีเพื่อนบ้านบอกว่าได้ยินเหมือนที่บ้านของเธอส่งเสียงหวีดร้องโหยหวนดังกึกก้องทั่วหมู่บ้าน และพร้อมหมาหอนรับเป็นทอด ๆ   จนรุ่งเช้าเพื่อนบ้านมาสอบถามเธอว่าเมื่อคืนได้ทะเลาะอะไรกันหรือเปล่า ซึ่งเธอบอกว่าไม่ได้ทะเลาะอะไรกัน เพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันรวมถึงผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านต่างบอกว่าเสียงน่าจะดังมาจากบ้านของเธอ และยังมีคนเห็นว่ามีเงาดำเดินออกจากบริเวณนั้นไป

น.ส.สมคิด กล่าวต่ออีกว่ายอมรับว่าเมื่อก่อนในอดีตพ่อของเธอสมัยก่อนเคยเป็นหมอรักษากลางบ้านใช้อาคมเสกเป่า (จำพวกตำราใช้สำหรับเสกเป่าและมีลูกประคำ) หลังจากที่พ่อเสียชีวิตไปแล้วก็ได้นำของออกจากบ้านไปแล้ว และตนเองเคยเห็นดวงไฟซึ่งเป็นแสงไฟลอยไปมาอยู่ไม่ไกลจากบ้านนักด้วยตนเอง ซึ่งขณะนั้นประมาณตี 4 ตื่นมาหุงข้าว เห็นดวงไฟลอยไปลอยมาแล้วก็หายไป รวมถึงมีคนเห็นเธอไปหาเพื่อนที่บ้าน แล้วก็มาถามเธอว่าได้ไปหาเพื่อนที่บ้านหรือเปล่า เธอบอกว่าไม่ได้ไปหาใคร สร้างความน่าขนหัวลุก และเชื่อว่าน่าจะเกี่ยวกับเรื่องผีปอบ (ปอบแลกหน้า) ซึ่งจะทำให้เป็นใบหน้าของคนคนหนึ่ง สิ่งที่เกิดขึ้นอาจเป็นไปได้ว่ามีลูกหลานมาขออาศัยอยู่ด้วย หรือทำอะไรลงไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ โดยไม่ได้บอกกล่าวขอขมาขออภัยก่อน และระหว่างที่เกิดเรื่องขนหัวลุก ยังได้มีเป็ดตาย 2 ตัวและมีควายของเพื่อนบ้านตายอีกด้วย

ด้านนายกฤษฎาพงษ์ (ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 17 ปีหลานชาย กล่าวว่า   เรื่องลี้ลับนี้อาจจะเป็นปอบแลกหน้า  โดยทำให้เห็นเป็นใบหน้าของคนอื่น ซึ่งตนเองเห็นเงาดำเดินอยู่ที่บ้านย่า

ด้านนายถวิน ประจินต์ ชาวบ้านกล่าวว่า   คืนวันพระที่ผ่านมาที่บ้านยินเสียงหวีดร้องเสียงเย็นยะเยือกกลางดึกซึ่งดังมากน้ำเสียงไม่น่าจะใช่เสียงผู้หญิงปกติ และเช้าถามผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านซึ่งก็บอกว่าได้ยินเสียงหวีดร้องดังเหมือนกันช่วงเวลานั้นน่าจะประมาณ 3 ทุ่ม ที่ผ่านมาเคยมีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้นในหมู่บ้านบ่อยหลายครั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม ได้สอบถามผู้เฒ่าผู้แก่เล่าว่า ในตำราของผีปอบ เป็นปอบ 4 สายพันธุ์ ได้แก่ ปอบเชื้อ เป็นปอบที่มากับสายเชื้อ สายเลือดจากพ่อแม่ ความดุจะน้อยจะอยู่แยกจากคนในหมู่บ้านถ้าไม่ไล่ให้จนมุมจะไม่ทำร้ายใคร เลี้ยงอาหารไว้กินเอง หรือไม่ก็มาขอซื้อ และจะไม่สบตาใคร เวลาแต่งงานก็จะแต่งกับปอบด้วยกันลูกที่เกิดมาก็จะเป็นปอบด้วย สายพันธุ์  2 ปอบสาย มาจากสายเลือดเหมือนกันแต่ถ้าพ่อเป็นปอบ แม่ก็เป็นคนธรรมดาโอกาสที่ลูกจะเป็นปอบ 50:50 ถ้าสายเลือดปอบของพ่อแม่เข้มข้นกว่าแม่โอกาสที่จะเป็นปอบก็จะเยอะ สายพันธุ์  3.ปอบเวทย์ ปอบเวทย์ คือคนที่ผิดคำครู แล้วย้อนเข้าตัว อันนี้ น่ากลัว เพราะมันกินไม่เลือกหน้า และสายพันธุ์  4.ปอบป่า ดุสุด แรงสุด เกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น เอาว่านอาถรรพ์มาเลี้ยง มาเล่น ว่านมันจะกลับเข้าหาตัว หรือวิชากลับเข้าตัว สุดท้ายต้องไปอยู่ในป่า พวกพรานป่าจะรู้ ถ้าเวลาไปล่าสัตว์ ถ้าบริเวณนั้นไม่มีสัตว์ป่าอะไรเลย ไม่มีแม้แต่เสียงจั๊กจั่นร้อง แสดงว่าเป็นอาณาเขตของปอบ เขาจะไม่เข้าไป