วันที่ 28 เมษายน 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน จ.ปทุมธานี และ จ.สระบุรี กว่า 100 รายรวมตัวเรียกร้องรัฐบาลเรื่องราคาผลผลิตปาล์มน้ำมันตกต่ำโดยมีการประชดโดยมีนายมนัส พุทธรัตน์ ประธานสมาพันธ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันประ เทศไทย นางอรุณี ชีสังวรณ์ เลขาชาวสวนปาล์มน้ำมันรพีพัฒน์ จ.สระบุรี และ ชาวสวนปาล์มน้ำมัน จ.ปทุมธานี และ จ.สระบุรี กว่า 100 รายรวมประชุมเรียกร้องเรื่องดังกล่าวพร้อมกับการนำผลปาล์มน้ำมันมาขว้างทิ้งลงพื้นและตะโกนส่งเสียงดังว่าไม่เอาราคานี้ชาวสวนปาล์มน้ำมันตกต่ำแบบนี้
 

นายมนัส พุทธรัตน์ ประธานสมาพันธ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันประเทศไทย กล่าวว่าวันนี้ชาวเกษตรกรผู้ปลูกน้ำมันปาล์มทั้ง 2 จังหวัด(ปทุมธานี สระบุรี) กว่า 30,000 ไร่ที่ได้รับผลกระทบจากผลผลิตราคาน้ำมันปาล์มตกต่ำ โดยในช่วงเวลาตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมาราคาผลปาล์มน้ำมันลดลงทุกวันจนมาถึงวันที่ 28 เมษายน 2568 เกษตรกรได้ราคาขายปาล์มอยู่ที่ 4.30 บาทถึง 4.50 บาทซึ่งราคาต่ำกว้าต้นทุนของเกษตรกรอยู่ที่ราคาต้นทุนของเกษตรกรอยู่ที่ 5 บาท กว่าแล้ว ซึ่งผลผลิตของการเกษตรของเกษตรกรก็ได้น้อยเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนมาก ราคาปุ๋ยแพงมากราคาค่าแรง ค่าตัดปาล์ม ค่าขนส่งวัตถุดิบในการผลิตสูงทุกอย่างส่งผลให้เกษตรกรประสบปัญหาการขาดทุนอย่างมากในช่วงนี้เกษตรกรจึงขอให้ทางกรมการค้าภายในในคณะทำงานรักษาสมดุลตามน้ำมันโดยขอให้ท่านอธิบดีกรมการค้าภายในให้เร่งแก้ไขปัญหาโดยด่วนและขอให้ภาครัฐบาลช่วยดูแลเกษตรกรผู้ปลูกตามน้ำมันที่กำลังเดือดร้อนอยู่ในขณะนี้อย่างเร่งด่วนขอให้ผลผลิตของเกษตรกรไม่ต่ำกว่า 6 บาท ทั้งนี้ในวันที่ 1 พฤษภาคมที่จะถึงนี้เกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันทั้ง 2 จังหวัด จะเดินทางไปยื่นหนังสือถึง กระทรวงพาณิชย์ และ อธิบดีกรมการค้าภายใน เพื่อขอให้พิจารณาเรื่องนี้ภายใน 15 วันและหากเรื่องนี้ทางเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำไม่ได้รับคำตอบก็จะรวมตัวกันและนำผลผลิตปาล์มน้ำมันไปเททิ้งหน้าทำเนียบรัฐบาลต่อไป

ด้านนางนันท์มนัส อัครจิตตานนท์ เจ้าสวนปาล์ม ม.7 ต.บึงกาสาม อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี กล่าวด้วยน้ำตาว่าหลังจากที่ราคาปาล์มน้ำมันตกลงมาอย่างต่อเนื่องส่งผลกระทบต่อเกษตรกรอย่างแสนสาหัส โดยราคาปุ๋ยแพง น้ำมันแพง ของบริโภคของใช้ในครัวเรือนก็แพงแต่ผลที่เป็นรายได้จากปาล์มกับลดลงอย่างต่อเนื่องแต่ทุกอย่างก็ขึ้นหมดของกินของใช้ในครัวเรือน แต่รายได้ที่เราได้อยู่มันลดต่ำลงไปแทบจะครึ่งต่อครึ่งโดยสภาพสถานะการณ์แบบนี้ชาวสวนปาล์มทั้งหมดรับไม่ไหวแล้วเพราะมีแต่ขาดทุนทุกวันหนี้สินทางธนาคารก็มีอยู่จึงฝากถึงทางรัฐบาลหรือกระทรวงที่รับผิดชอบอยู่อย่างกระทรวงพาณิชย์และการค้าภายในให้ออกมาดูแลเรื่องราคาให้มากกว่านี้ขึ้นราคาเป็น 6 บาทชาวสวนปาล์มจะอยู่ได้ซึ่งต้นทุนของชาวสวนปาล์มก็อยู่ที่ 5 บาทกว่าแล้ว โดยหนี้สินของทางธนาคารนั้นเขาก็ช่วยชลอให้เราแต่รายได้หลักของชาวสวนปาล์มที่หล่อเลี้ยงปากท้องของพวกเรานี้ตกต่ำลงทุกวันจนชาวสวนปาลืมทั้ง 2 จังหวัดทนไม่ไหวแล้ว