วันเสาร์ ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 11:35 น.

ภูมิภาค

ส.อบจ.ตราด ขอความเป็นธรรม ยันครอบครัวไม่มีพฤติกรรมตามที่กล่าวหา แจงทุกหลังมีชื่อในทะเบียนบ้านถูกต้อง ข้องใจเจตนาคู่กรณี

วันพฤหัสบดี ที่ 01 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 19.04 น.

หลังจากนายเทวัญ ตันชัย แจ้งความดำเนินคดีกับนายชูชัย แสนสบายอดีตสมาชิกสภาเทศบาลเมืองตราด กลุ่มพลังหนุ่ม ต่อพนักงานสอบสวนสภ.เมืองตราด เมื่อค่ำวานนี้(30 เมษายน 2568)ที่ผ่านมานั้น นางสาวจันทรัตน์ แสนสบาย บุตรสาวของนายชูชัย แสนสบาย ซึ่งเป็นบุคคลที่ปรากฏเป็นข่าวในขณะนี้ ได้โพสต์ชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อให้สาธารณชนได้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วน

นางสาวจันทรัตน์ กล่าวว่า ตนเองและครอบครัวขอยืนยันว่า หากมีพฤติกรรมหรือการกระทำใดที่เข้าข่ายเป็นความผิดตามกฎหมาย เราขอยอมรับและพร้อมให้ความร่วมมือกับหน่วยงานที่มีหน้าที่ตรวจสอบอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม ข้อเท็จจริงบางประการที่เกิดขึ้นในกระบวนการดังกล่าว ได้ส่งผลกระทบต่อครอบครัวของตนเองอย่างมีนัยสำคัญ โดยในการร้องเรียนที่เกิดขึ้น ทางคู่กรณีได้ยื่นเรื่องไปยังบ้านพักอาศัยที่เป็นของครอบครัวข้าพเจ้าทั้ง 3 หลังเท่านั้น ซึ่งทำให้เกิดข้อสงสัยถึงเจตนาในการกระทำดังกล่าว บ้านหลังแรกมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวน 7 คน ส่วนบ้านหลังที่สองและบ้านหลังที่สามมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งหลังละ 8 คน ทั้งนี้ บ้านทุกหลังได้มีการชี้แจงต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับที่มาที่ไปของบุคคลที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านอย่างถูกต้องตามกฎหมาย อีกทั้งบางหลังมีการอยู่อาศัยมาเป็นเวลานานหลายปี

“ตลอดเวลาที่ผ่านมา ข้าพเจ้าไม่เคยมีเจตนาจะกล่าวพาดพิงหรือล่วงละเมิดต่อบุคคลที่สามหรือผู้ใดให้ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหาย แต่เมื่อครอบครัวของข้าพเจ้าต้องตกเป็นเป้าของข้อกล่าวหาและกระบวนการตรวจสอบเพียงฝ่ายเดียว ข้าพเจ้าจึงใคร่ขอความเป็นธรรมว่า หากผลการตรวจสอบปรากฏว่าไม่มีการกระทำความผิด ครอบครัวของข้าพเจ้าก็ควรได้รับการปกป้องคุ้มครองสิทธิตามกฎหมาย และได้รับความเป็นธรรมในฐานะพลเมืองเช่นเดียวกัน” นางสาวจันทรัตน์ กล่าว

เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2568 เวลา 14.30 น. ที่สำนักงานกกต. ทีมกลุ่มตราดสร้างสรรค์ นำโดยนายสุรศักดิ์ ภูติภัทร์ และ นายท็อปอดีตพร้อมกับทนายความได้มายืนคำร้องชี้แจง กับ นาย มนตรี ภูมิศักดิ์ รองผู้อำนวย สำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้งจังหวัดตราด (กกต.ตราด)พร้อมกับชุดสืบสวนสอบสวน กกต.ตราด

โดยนายเทวัญ ตันชัย พร้อมกับนายเอนก ทองย้อยทนายความ และคณะได้มีการยืนเรื่องหนังสือให้กกต.ประจำเทศบาลเมืองตราดตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ส่งไปให้ปลัดเทศบาลเมืองตราด ในฐานะผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำกกต.ประจำเทศบาลเมืองตราดนั้น ได้มีข้อมูลที่หลุดออกไป ทำให้เจ้าของบ้านรายนั้น ไม่พอใจและเข้ามาด่า และข่มขู่ จึงต้องทำการแจ้งความดำเนินคดีไปเมื่อค่ำวานนี้ ซึ่งล่าสุดทราบว่า 1 ใน 3 ของบ้านที่ตนเองได้แจ้งว่าเป็นบ้านร้างนั้น ขณะนี้ได้มีการทำความสะอาดแล้ว วันนี้ จึงได้มาหนังสือการร้องเพิ่มอีก 19 หลังให้กับทางกกต.ตราดได้ตรวจสอบด้วย

ทั้งนี้ ทาง นาย มนตรี ภูมิศักดิ์ รองผู้อำนวยการ กกต.ได้รับเรื่องในเบื้องต้นไว้ และแนะนำถึงขั้นตอนการทำงานว่า หลังจากผู้ร้องทำเรื่องร้องและยื่นคำร้องต่องานสืบสวน พร้อมแนะนำ การเขียนจะมีหลักเกณฑ์ วัน เดือน ปี ชื่อ ผู้ร้อง พฤติกรรม ที่ท่านจะตั้งประเด็นมาตรา 48 และจะเสนอ ผู้อำนวยการ.กกต.จังหวัดเพื่อให้พิจารณา ถ้าผู้อำนวยการกกต.ตราด และเมื่อรับแล้ว จำดำเนินกระบวนการไต่สวนพยาน เรียกพยาน และเรียกเอกสารทั้งหมดมา และเรียกเจ้าของบ้านที่ถูกร้องชี้แจงรับข้อกล่าวหา และท้ายสุดหากมีการมาย้ายเข้ามาจริง และหักล้างข้อกฎหมายไม่ได้ ก็จะผิดมาตราที่ 48 และจะโยงไปถึง มาตรา 125 ด้วย

นายมนตรี ได้แจกแจงข้อกฎหมายในข้อกฎหมายเพิ่มเติมว่า พรบ.เลือกตั้ง พ.ศ.2562 มาตรา 48 ระบุว่า ห้ามไม่ให้มิให้ดำเนินการย้ายบุคคลย้ายเข้ามาในทะเบียนบ้านเพื่อการเลือกตั้งโดยมิชอบ ที่นีในข้อสันนิฐานของกฎหมายวรรค2 ได้เขียนไว้ว่ากรณีดังต่อไปนี้ให้สันนิฐานว่า มีการย้ายบุคคลโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เพื่อประโยชน์การเลือกตั้งโดยมิชอบ เว้นแต่ คณะกรรมการการเลือกตั้งเห็นว่าเป็นเหตุอันควร

ทั้งนี้ ข้อสันนิฐาน ข้อแรก คือ ย้าย บุคคลตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ไม่มีชื่อสกุลเดียวกับเจ้าบ้าน นามสกุลคนละนามสกุลตั้งแต่ 5 คน ขึ้นไป เข้ามาในทะเบียนบ้าน เพื่อให้บุคคลดังกล่าวมีสิทธิ์การเลือกตั้งขึ้นมาใน 2 ปี มาตรา 48 ห้ามมิให้ผู้ใดดำเนินการย้ายบุคคลเข้ามาในทะเบียนบ้านเพื่อประโยชน์ในการเลือกตั้งโดยมิชอบ และกรณีดังต่อไปนี้ให้สันนิษฐานว่าเป็นการย้ายบุคคลเข้ามาในทะเบียนบ้านเพื่อประโยชน์ในการเลือกตั้งโดยมิชอบด้วย เว้นแต่คณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นการย้ายโดยมีเหตุผลอันสมควร

1. การย้ายบุคคลตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปซึ่งไม่มีชื่อสกุลเดียวกับเจ้าบ้านเข้ามาใทะเบียนบ้านเพื่อให้บุคคลดังกล่าวมีสิทธิเลือกตั้งที่จะมีขึ้นภายในสองปีนับแต่วันที่ย้ายเข้ามาในทะเบียนบ้าน 2 .การย้ายบุคคลเข้ามาในทะเบียนบ้านโดยบุคคลนั้นมิได้อยู่อาศัยจริง 3 .การย้ายบุคคลเข้ามาในทะเบียนบ้านโดยมิได้รับความยินยอมจากเจ้าบ้านถ้าผิดกฎหมายการเลือกตั้ง มีโทษมาตรา 125 และผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 48 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 5 ปี

ส่วนนายสุรศักดิ์ ภูติภัทร์ หัวหน้ากลุ่มตราดสร้างสรรค์ ได้กล่าวอีกว่า ที่เข้ามาร้องเรียนกกต.ตราดครั้งนี้ อยากจะมาตัดไฟตั้งแต่ต้นลม เพราะที่ผ่านมาการเมืองตราดไม่มีแบบนี้ สังคมเมืองไม่มีคนมากมาย ในสังคมมีคนมากมายที่ใช้คำพูดคำจาไม่ถูกต้อง เราที่มากกต.ตราดเราต้องการความยุติธรรม การแพ้ชนะไม่ใช่ปัญหา การเบี่ยงเบนเอาคนข้างนอกมาเลือกมันไม่ใช่มติในการบริหารท้องถิ่น ที่มีการกระจายอำนาจมาแล้ว และกรณีทำให้ไม่ได้ผู้บริหารที่ทำตามมติของประชาชนจริง ๆ

“ผมอยากให้ทางกกต.ตราดดำเนินการเรื่องนี้เป็นแบบอย่าง การย้ายคน การใช้การพนัน การวางเงินตามจุด ไม่ควรจะไม่มีการกระทำนั้นๆ เกิดขึ้น แต่ตอนนี้แล้วบ้านเมืองเราเจริญไป อยากจะขอความยุติธรรมจากกกต.ตราด ทำให้เด็ก และเยาวชนรุ่นใหม่เข้ามาทำงานการเมืองรุ่นใหม่ เป็นนักการเมืองที่ดี การเมืองที่สร้างสรรค์ มีความคิดสร้างสรรค์ มากกว่าใช้เทคนิคทุกวิธีเพื่อการชนะ การชนะเป็นเจ้า การแพ้ก็แพ้ไป อย่างงั้นไม่ได้ประโยชน์ต่อบ้านเมือง ขอบคุณที่ทางกกต.เห็นถึงความสำคัญ“ นายสุรศักดิ์ กล่าว

หน้าแรก » ภูมิภาค