วันอาทิตย์ ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 11:19 น.

ภูมิภาค

เลยวุ่น! วัวตายรวด 3 ตัว ปชช.ผวา!เร่งสอบหวั่นแอนแทรกซ์

วันเสาร์ ที่ 03 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 08.58 น.

เลย หวั่นชาวบ้านตื่นตระหนก  เป็นเชื้อระบาดโรคแอนแทรกซ์ รีบทำความเข้าใจ เบื้องต้นน่าจะเป็นเพราะกินเชือกไนล่อนมัดฟาง ตาย


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากวานนี้ ที่ นายธนายุทธ ใยแก้ว นายอำเภอด่านซ้าย เร่งประสานไปยังปศุสัตว์จังหวัดเลย พร้อมกับ ปศุสัตว์อำเภอด่านซ้าย สาธารณสุขจังหวัดเลย แพทย์ ลงพื้นที่ตรวจสอบ หลังพบการตายของวัวทั้ง 3 ตัว ในพื้นที่ ต.นาดี อ.ด่านซ้าย โดยห้ามเคลื่อนย้าย ห้ามนำสัมผัส ห้ามนำเนื้อมารับประทานอย่างเด็ดขาด

 

 

ซึ่งนายธนายุทธ ใยแก้ว นายอำเภอด่านซ้าย ได้รับแจ้งจาก นายสมัย ฤทธิศักดิ์ ผู้ใหญ่บ้านแก่วตาว หมู่ 6 ต.นาดี อ.ด่านซ้าย จ.เลย ว่าในพื้นที่พบว่าวัว ของนายจัด ฤทธิศักดิ์ อายุ 60 ปี ลูกบ้าน ได้นำวัวไปปล่อยเลี้ยงอยู่ในป่าละเมาะ ภายในหมู่บ้าน ห่างจากแม่น้ำเหืองไม่ห่างไกลพรมแดนไทย-ลาว พบว่าวัว ที่มีอายุ 3-5 ปี เพศเมีย จำนวน 3 ตัว จู่ๆ วัวได้ตายลง ซึ่งแต่ละตัวตายห่างกันไม่เกิน 20 เมตร ภายในป่าโดยไม่มีบาดแผล โดยไม่ทราบสาเหตุ หลังชาวบ้านทราบข่าว ต่างผวาและกลัวจะเป็นการระบาดโรคแอนแทรกซ์ระบาดในพื้นที่

 

 

ในเบื้องต้นขณะนี้เจ้าหน้าที่ไห้ประกาศห้ามเคลื่อนย้าย ห้ามสัมผัส และห้ามนำเนื้อมารับประทาน รอจนกว่า.ตรวจสอบและในช่วงดึกที่ผ่านมา ดร.สุวัฒน์ มัตราช, ปศุสัตว์จังหวัดเลย ได้นำเลือด วัวทั้ง 3 ตัว เพื่อนำตัวอย่างไปส่งตรวจ ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการสัตวแพทย์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน อีกครั้ง

 

 

ล่าสุด นายประยูร  อรัญรุท รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ผู้รับผิดชอบ งานปศุสัตว์ กล่าวว่า  นายชัยพจน์ จรูญพงศ์  ผู้ว่าราชการจังหวัดเลยได้เป็นห่วงในเรื่องที่มีภาพข่าวออกสื่อต่าง ๆ พบวัวตายโดยไม่ทราบสาเหตุ ในพื้นที่อำเภอด่านซ้าย ของนายจัด ฤทธิศักดิ์ ชาวบ้านแก่วตาว หมู่ที่ ๖ ตำบลนาดี อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย จำนวน ๓ ตัว ทำให้ประชาชนเกิดความตื่นตระหนก ต่อการตายของวัว ในครั้งนี้ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดเลย ร่วมกับด่านกักกันสัตว์เลย สำนักงานปศุสัตว์อำเภอด่านซ้าย กำนันตำบลนาดี และผู้ใหญ่บ้านบ้านแก่วตาว ได้ร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่พบว่าวัวที่ตายเห็นซากมีเพียง 2 ตัว และมีลูกวัวสูญหาย 1 ตัว ซึ่งซากที่พบ เห็นนั้นมีการตายมาได้หลายวันแล้ว เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ได้เก็บตัวอย่างจากวัวที่ตายและเก็บเลือดวัวที่อยู่ในฝูงเพื่อส่งตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุการตายที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการสัตวแพทย์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนบนและได้ทำการฝังซากวัวที่ตายทั้งหมดแล้วตามหลักวิชาการ

 

 

จากการร่วมตรวจสอบชัจมูลของคณะเจ้าหน้าที่ปศุสศสัตว์และผู้น้าท้องที่ในเบื้องต้นพบว่า กรณีการตายของวัวดังกล่าว ไม่น่าจะเกิดจากโรคระบาดสัตว์ เนื่องจากวัวในฝูงที่เหลือยังมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงดี มีการเคี้ยวเอื้องได้ทุกตัว สัตว์ในฝูงไม่แสดงอาการเชื่องซึม ป่วย และตายอย่างต่อเนื่องแต่อย่างใด จึงไม่เข้านิยามของโรคระบาดสัตว์ จากข้อสังเกตสภาพแวดล้อมในบริเวณคอกและการให้อาหารสัตว์ พบว่าเกษตรกรได้ให้ฟางแห้งที่มีเชือกไนล่อนมัดฟางแห้งกระจายอยู่เต็มบริเวณพื้นคอก จึงสันนิษฐานได้ว่าวัวที่ตายอาจจะกินเชือกไนล่อนมัดฟางเข้าไปจึงเป็นสาเหตุทำให้เกิดการอุดตันในระบบทางเดิน อาหาร ทำให้สัตว์ป่วยและตายได้เป็นกรณีบางตัว แต่ทั้งนี้ต้องรอผลการชันสูตรยืนยันจากทางห้องปฏิบัติการเพื่อความชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง

 

หน้าแรก » ภูมิภาค