ช่วงค่ำวันที่ 4 พ.ค.68 ที่เวทีกลางงานท่องเที่ยวประจวบคีรีขันธ์ มหัศจรรย์เมืองสามอ่าว และงานกาชาดประจำปี 2568 นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการ จ.ประจวบฯ เป็นประธานเปิดโครงการมหกรรมจังหวัดรักษ์สุขภาพ ภายใต้สโลแกน "ประจวบ เมืองสุขภาพ เมืองน่าอยู่ เมืองน่าเที่ยว" Next move PRACHUAP ประจวบต้องไปต่อ มี นพ.สุเทพ เพชรมาก เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ นพ.อภิชาติ รอดสม รองเลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ พญ.บุษกร สวัสดิ์แสน นายกเหล่ากาชาดจังหวัดประจวบฯ นายประทีป บริบูรณ์รัตน์ นายปรีดา สุขใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ นพ.ธนกร ศรัณยภิญโญ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดประจวบฯ นายสราวุธ ลิ้มอรุณรักษ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดฯ หัวหน้าส่วนราชการ 30 หน่วยงาน นายอำเภอ 8 อำเภอ ภาคีเครือข่ายภาคประชาสังคมและภาคประชาชน เข้าร่วมกิจกรรม

ภายในงานมีกิจกรรมประกอบด้วย การจัดนิทรรศการและฐานการเรียนรู้เวชศาสตร์วิถีชีวิต เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจในการดูแลสุขภาพ, ไลฟ์ทอล์ค เรื่อง กินอยู่อย่างไรไม่ให้แก่ และวิถีปฏิบัติของคนสุขภาพดี,พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการขับเคลื่อนให้ จ.ประจวบฯ เป็น "จังหวัดรักษ์สุขภาพ" และพิธีมอบธง "สุขภาพดี วิถีคนประจวบ" Wellness Province ซึ่งเป็นธงสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความมุ่งมั่นของหน่วยงานและภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนที่จะร่วมกันส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชนคนจังหวัดประจวบฯ มีสุขภาพที่ดี ทั้งระดับบุคคล ครอบครัว และชุมชน ภายใต้บรรยากาศและสิ่งแวดล้อมที่ใด้รับการจัดการให้เอื้อต่อการสร้างเสริมสุขภาพที่ครบทุกมิติ ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สังคมและสติปัญญา ก่อเกิดเป็นกระแส "รักษ์สุขภาพ" นำไปปฏิบัติจนกลายเป็นกิจวัตรในชีวิตประจำวัน ส่งผลต่อการมีสุขภาวะที่ยั่งยืน และปิดท้ายด้วยกิจกรรม "Long Life Prachuap Fit" ร่วมกันออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ

ทั้งนี้ จ.ประจวบฯ เห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาสู่เป้าหมายที่สหประชาชาติประจำประเทศไทย ได้ลงนามในกรอบความร่วมมือว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืนกับรัฐบาลไทย ประกอบกับทุกภาคส่วนในจังหวัด มีความเห็นตรงกันว่า "สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน" คือ รากฐานของการพัฒนาในทุกด้าน การพัฒนาจังหวัดประจวบฯ ให้เป็น "จังหวัดรักษ์สุขภาพ" ที่รวมความโดดเด่น ทั้งด้านการดูแลสุขภาพของประชาชน และการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ จึงเป็นเป้าหมายหลักของการพัฒนา เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และส่งเสริมมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับจังหวัดประจวบฯ ได้อย่างยั่งยืนต่อไป.