วันที่ 6 พ.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงใกล้เปิดเทอมเหล่าบรรดาผู้ปกครอง เริ่มหาเงินไปจับจ่ายใช้สอย เพื่อซื้อเครื่องแต่งกายชุดนักเรียน รองเท้า กระเป๋า ถุงเท้า และค่าใช้จ่ายที่จำเป็น จึงต้องนำของมีค่า อย่างทองรูปพรรณ เครื่องเงิน และของมีค่าภายในบ้านมาจำนำเพื่อหมุนเงินไปใช้จ่ายล่วงหน้าช่วงเปิดเทอมกันอย่างคึกคัก

นางนันทิยา พงษ์ทอง ผู้จัดการสถานธนานุบาลเทศบาลเมืองชัยนาท เปิดเผยว่า ในช่วงใกล้เปิดภาคเรียนใหม่ มีประชาชนจำนวนมากนำทรัพย์สินมาจำนำเพื่อหมุนเงินใช้จ่ายสำหรับชุดนักเรียน อุปกรณ์การเรียน และค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยคาดว่ามีเม็ดเงินหมุนเวียนต่อวันไม่ต่ำกว่า 6-10 ล้านบาท ทางสถานธนานุบาลเทศบาลเมืองชัยนาทได้สำรองเงินสดไว้ถึง 200 ล้านบาท พร้อมออกมาตรการลดภาระประชาชน ด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยพิเศษสำหรับเงินต้นไม่เกิน 5,000 บาท จากเดิมคิดร้อยละ 0.50 ต่อเดือน เหลือเพียงร้อยละ 0.25 ต่อเดือน ส่วนเงินต้นเกิน 5,000 บาท ใช้อัตราดอกเบี้ยเดิมที่ร้อยละ 1 ต่อเดือน โดยมาตรการดังกล่าวจะมีผลจนถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2568 ซึ่งการให้ความช่วยเหลือผ่านการลดดอกเบี้ยในช่วงเปิดเทอม เป็นอีกหนึ่งแนวทางของสถานธนานุบาลฯ ในการแบ่งเบาภาระผู้ปกครองที่ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายจำนวนมากในช่วงเวลาสำคัญของครอบครัว สำหรับสิ่งของที่ประชาชนนิยมนำมาจำนำมากที่สุด ได้แก่ ทองรูปพรรณ เครื่องใช้ไฟฟ้า และของสะสมเบ็ดเตล็ด

นางทวี ยอดดำเนิน อายุ 74 ปี เปิดเผยว่า วันนี้เอาทอง 1 บาท ที่เป็นสมบัติของบ้านมาจำนำ เพื่อนำไปใช้จ่าย ซื้อชุดนักเรียน อุปกรณ์การเรียนต่างๆ ที่จำเป็นในการเรียน เพราะใกล้เปิดเทอมแล้ว ซึ่งทองบาทนี้ เอามาจำนำอยู่เป็นประจำก่อนเปิดเทอม เพราะต้องใช้เงินก้อน พอมีก็จะรีบมาไถ่ออกทันที ทำแบบนี้ประจำ เพราะการเก็บเงินก้อนในช่วงเศรษฐกิจเช่นนี้ถือว่ายากลำบากมาก