ล้อมคอก หลังน้องมิ้นเหยื่อไฟช็อตช่วงน้ำท่วม เร่งปรับเปลี่ยนท่อระบายน้ำขุดล้างท่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
 
จากกรณี “น้องมิ้น” นางสาวมัณฑนา ผ่องผิว อายุ 23 ปี ถูกไฟฟ้าช็อตขณะเข็นรถจักรยานยนต์ที่เครื่องดับเพราะน้ำท่วมถนน ผ่านเสาไฟส่องสว่างจนล้มทั้งยืนหมดสติ เหตุเกิดบริเวณใกล้กับสี่แยกบางใหญ่ เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี เมื่อช่วงเย็นวันที่ 6 พ.ค.68 และน้องมิ้นได้เสียชีวิตอย่างสงบเมื่อช่วงเช้าวันที่ 8 พ.ค.68 ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของพ่อแม่ ญาติพี่น้องและเพื่อนร่วมงาน จนเป็นที่วิพากวิจารณ์อย่างกว้างขวางในสังคมจังหวัดสุราษฎร์ธานีและใกล้เคียง
 
 
ล่าสุดวันนี้ (9พ.ค.68) นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล ผวจ.สุราษฎร์ธานี นางโสภา กาญจนะ นายก อบจ.สุราษฎร์ธานี ,แขวงการทางจังหวัดสุราษฎร์ธานีและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ดูจุดน้ำท่วมหนัก ตั้งแต่จุดที่มีน้ำไหลบ่าลงมาจากเขาท่าเพชร มาตามเส้นทางโรงเรียนสุราษฎร์ธานี2 ออกสู่ถนนสายเลี่ยงเมือง พบปัญหาคือน้ำไม่ไหลลงท่อระบายน้ำแต่ได้ไหลบ่าผ่านท่อ

ซึ่งการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าคือประสานช่าง อบจ.รื้อฝาท่อคอนกรีตออก เปลี่ยนเป็นฝาตะแกรง ไปก่อน เพื่อให้น้ำไหลลงสู่ท่อระบายน้ำ และต้องเร่งล้างท่อระบายน้ำอย่างเร่งด่วนในวันนี้ เพราะฝนกำลังจะตกลงมาอีกตามพยากรณ์อากาศและอาจจะตกหนักกว่าวันที่ 6 พ.ค.68ที่ผ่านมา ส่วนการแก้ไขระยะยาวจะบูรณาร่วมกันเพื่อหาแนวทางแก้ไขต่อไป
 

จากนั้น คณะของผู้ว่าฯ ได้ลงพื้นที่ถนนสายสุราษฎร์ธานี-พุนพิน บริเวณแยกซอยโกเตง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เกิดปัญหาน้ำท่วมผิวจราจรเป็นประจำเมื่อฝนตกหนัก ทำให้รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้สะดวก และยังมีรายงานอุบัติเหตุหลายครั้ง สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนและผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างต่อเนื่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดจึงได้สั่งการให้เร่งบูรณาการทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งรัดการแก้ไขปัญหา ทั้งในแง่ของการระบายน้ำ การติดตั้งเครื่องมือเร่งระบายในจุดเสี่ยง และการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือพายุฝนที่กำลังจะมาถึง
 

ขณะที่นายสุวิทย์ สรวงศิริ ชาวบ้านที่อาศัยอยู่สายเลี่ยงเมือง ผู้ประสบภัยทุกครั้งที่เกิดฝนตกหนัก กล่าวว่า ฝนตกไม่นานแต่น้ำท่วมทุกครั้ง อยากให้ภาครัฐแก้ไขปัญหาให้เสมอภาค ทุกครั้งมักจะขุดลอกท่อเฉพาะหน้าบ้านนายก อบจ.

น้องแบลี ช่างอู่ เอสพี.กระจก กล่าวว่า เห็นเหตุการณ์วันที่น้องมิ้นประสบเหตุถูกไฟช็อต ตอนแรกที่เห็นเข้าใจว่าเป็นอุบัติเหตุ จึงเดินลุยน้ำเท้าเปล่าเพื่อไปช่วย พอเดินเข้าไปถึงถูกไฟดูด จึงได้ถอยออกมาและได้ ร้องบอกเพื่อนๆ ว่าไฟช็อต ก็พยายามหาวิธีการที่จะช่วยเหลือใหม่ จนกระทั่งเวลาผ่านประมาณ15-20 นาที ชาวบ้านใช้เชือกผ้าดึงร่างมาแล้วปั๊มหัวใจในเบื้องต้น เมื่อกู้ชีพกู้ภัยมาถึงก็เข้าไปช่วยกันปั๊มหัวใจ ก่อนนำส่งโรงพยาบาล

“ตรงจุดเกิดเหตุไฟน่าจะแรงมาก รถสิบล้อพยายามช่วยดันน้ำให้เกิดคลื่นเพื่อดันร่างน้องออกมา แต่ยังดันร่างไม่ได้” ช่างแบลี กล่าว
 

เช่นเดียวกันกับช่างโต้ง ช่างอู่ เอสพี. กระจก อีกคน เป็นผู้เข้าไปช่วยปั๊มหัวใจ บอกว่าน้ำแรงมาก และคิดว่ากระแสไฟก็แรง อยากให้หน่วยงานของรัฐ หาวิธีการป้องกันให้ดีกว่านี้
 

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า สำหรับที่อู่ เอส พี กระจก ซึ่งเป็นจุดรับน้ำท่วมที่หนัก ต้องหาวิธีการแก้ไขปัญหาเอง เหมือนกับอู่อื่นและชาวบ้านที่อยู่ริมถนนสายนี้ ต้องแก้ปัญหาเองด้วยการก่ออิฐกันน้ำสูงประมาณ 30 ซม.เพื่อป้องกันน้ำท่วมหลังจากอุตุเตือนจะมีฝนตกหนักอีกในช่วงวันสองวันนี้ และตกหนักอีกในวันที่ 11-12 พ.ค.68 นี้.