เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 9 พ.ค.68 นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย นายสงบ สะโตน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี นางสาวกานสินี โอภาสรังสรรค์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสุราษฎร์ธานี เขต 1 นางโสภา กาญจนะ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี  พร้อมรองปลัดเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี  ลงพื้นที่สำรวจสาเหตุของปัญหาการระบายน้ำในถนนสายสำคัญของอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี หลังเกิดน้ำท่วมขัง น้ำรอระบาย เมื่อมีฝนตกหนัก สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างมาก

โดยจุดแรก ลงพื้นที่บริเวณทางหลวงหมายเลข 420 หรือถนนเลี่ยงเมือง บริเวณสามแยกทางเข้าโรงเรียนสุราษฎร์ธานี 2 ซึ่งเป็นจุดที่น้ำจากเขาท่าเพชร และพื้นที่สูงไหลลงมา และท่อระบายน้ำตามแนวถนนมีช่องให้น้ำลงขนาดเล็ก ทำให้น้ำได้ไหลบ่ามาตามผิวถนนและไม่เข้าระบบระบายน้ำหลัก จุดดังกล่าว อยู่ในความรับผิดชอบของ อบจ. จึงได้หารือแนวทางระยะสั้น ด้วยการเปิดฝาท่อ และใช้แบริเออร์กั้นไม่ให้รถหรือคนตกลงไป เพื่อให้น้ำระบายลงท่อหลักได้เร็วขึ้น ส่วนบริเวณริมถนนเลี่ยงเมือง แขวงทางหลวงสุราษฎร์ธานีที่ 1 เร่งขุดลอกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ และเตรียมติดตั้ง เครื่องสูบน้ำแบบถาวร 2 เครื่อง บริเวณปลายท่อเพื่อลงคลองบางใหญ่ และฝั่งถนนสายสุราษฎร์ - นาสาร ที่จะไปลงคลองมะขามเตี้ยเพื่อเพิ่มอัตราการระบายน้ำ พร้อมทั้งเตรียมเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ เพื่อสูบน้ำจากท่อพักแต่ละจุด กรณีที่มีน้ำปริมาณมาก

นอกจากนี้ เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ได้เตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว 30 – 50 คน คอยประจำตลอดแนวท่อ เพื่อคอยเปิดทางน้ำหากมีขยะมาอุดตะแกรงปากท่อ รวมถึง ยังได้วางแผนใช้รถขนาดใหญ่ มาจอดปิดกั้นช่องจราจรที่มีน้ำท่วมสูง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ ส่วนระยะกลางได้กำหนดแผนการลอกท่อต่อเนื่อง ทั้งเครื่องจักรและแรงงานคน พร้อมทั้งวางโครงการทำประตูระบายน้ำพร้อมเครื่องสูบน้ำ ลงคลองบางใหญ่

ต่อมาผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี และคณะ ได้ลงพื้นที่บริเวณ ซอยโกเตง ซึ่งเป็นอีกจุดที่มีน้ำท่วมขังถนน ต่อเนื่องไปยังหน้าทางเข้า สถานีขนส่ง  (บขส.)สุราษฎร์ธานี จุดนี้จะพบว่า มีตะกอนดินจำนวนมากที่ไหลมากับน้ำ ทำให้ปากท่อ และตะแกรงอุดตัน จุดนี้ระยะสั้น จะมีการขยายปากท่อรับน้ำ และในอนาคตจะเปลี่ยนเป็น ตะแกรงเหล็กต่อไป ส่วนบริเวณจุดเชื่อมต่อท่อ จะต้องมีการขุดเชื่อมท่อและรางจากข้างถนนเข้ากับระบบระบายน้ำหลักเพื่อประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม หากมีการเปิดปากท่อหรือเปลี่ยนเป็นตะแกรง ตะกอนดินจะลงไปสะสมในท่อเร็วมาก ซึ่ง เทศบาลตำบลวัดประดู่ เจ้าของพื้นที่จะต้องขุดลอกท่อ บ่อยครั้งมากขึ้น รวมถึงเมื่อมีฝนตก จะต้องเตรียมเจ้าหน้าที่ มาคอยเก็บขยะที่ไหลมาปิดปากท่อ

จากนั้น ได้ลงพื้นที่ บริเวณริมถนนสายสุราษฎร์ธานี-พุนพิน บริเวณฝั่งตรงข้ามโรงพยาบาลสวนสราญรมณ์ และ ต่อเนื่องบริเวณปากซอยเจริญลาภ ซึ่งจุดนี้พบว่า ระบบระบายน้ำหลักมีขนาดใหญ่ แต่ระบบรองจากถนนซอยยังไม่เชื่อมเชื่อมหากัน และในท่อหลักก็มีตะกอนทรายค่อนข้างมาก ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้มอบหมายให้ เทศบาลเมืองท่าข้าม หารือกับแขวงทางหลวง และการประปาส่วนภูมิภาค เขต 4  ในการขุดทางระบายน้ำชั่วคราวเพื่อเชื่อมระบบให้น้ำระบายเร็วขึ้น แต่ต้องเลี่ยงไม่ให้กระทบกับท่อประปาขนาดใหญ่ ที่ฝังอยู่ในแนวถนนดังกล่าวด้วย ซึ่งการแก้ไขปัญหาระยะสั้น ขอให้เร่งทำทันที เพราะในระยะ 1 – 2 วันนี้ ได้มีคำเตือนว่า ในพื้นที่จะมีฝนตกเพิ่มขึ้น ไปจนถึงวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน.