ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 68 มีบรรยากาศการหาเสียงโค้งสุดท้าย เลือกนายกเทศมนตรี และสมาชิกสภาเทศบาล(สท.) เทศบาลเมืองเลย ต่างตั้งเวทีปราศรัยเสนอนโยบาย แต่ละเวทีมีประชาชนร่วมฟังกันเป็นจำนวนมาก แต่ยังมีแสของผู้สมัครบางกลุ่ม ยังคงล่ารายชื่อเพื่อแจกเงิน โดยการผ่านหัวคะแนนในแต่ละชุมชน

นายสมหวัง (สงวนนามสกุล) ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเลย เผยว่า การเลือกตั้งนายกเทศมนตรี และสมาชิกสภาเทศบาล(สท.) ซึ่งในจังหวัดเลยมีการเลือกตั้งทั้งหมด 29 แห่ง  มีเทศบาลตำบล 27 แห่ง และเทศบาลเมือง 2 แห่ง มีเทศบาลเมืองเลย และเทศบาลเมืองวังสะพุง โดยภาพรวมการเลือกตั้งครั้งนี้ถือว่า ได้รับความสนใจของชาวบ้านได้ระดับหนึ่ง โดยเฉพาะเทศบาลตำบลแต่ละแห่งมีการหาเสียงกันอย่างเข้มข้น รวมทั้งเทศบาลเมืองทั้ง 2 แห่ง ที่ต่างใช้ระบบหัวคะแนนลงพื้นที่ เพื่อเก็บคะแนน

การเลือกตั้งครั้งนี้ก็เหมือนเดิม ตนยอมรับว่า มีการใช้เงินซื้อเสียงกันอย่างสนั่นเมือง ถ้าเทศบาลไหนไม่ซื้อเสียงถือว่าเป็นเรื่องแปลก บางเทศบาลมีกระแสข่าวจ่ายหัวละ 2,000 บาท กายกทีมทั้งเบอร์นายกและ สท. และบางเทศบาลจ่ายออกไปแล้ว บางแห่งจ่ายค่ามัดจำกันไปแล้ว และตามเก็บใกล้ถึงวันเลือกตั้ง แต่ละเทศบาลค่าใช้จ่ายในการซื้อเสียงต่อคนไม่น้อยกว่า 300 -500 บาทเลยก็มีในบางตำบล แม้การซื้อเสียงจะรู้กันไปทั่วในชุมชน แต่การที่จะให้ กกต. ตามจับก็จะเสมือนเป็นเรื่องยาก การจ่ายเงินผ่านหัวคะแนน การจ่ายแต่ละชุมชนไม่กี่นาทีก็แจกหมดแล้ว เป็นการยากที่จะจับนำมาดำเนินคดี แต่ตนก็หวังการเลือกตั้งครั้งนี้ชาวบ้านรับแต่เงินแต่ไม่กา ขอให้เลือกคนดีและมองที่นโยบายว่าจะทำบ้านเมืองให้เจริญขึ้น