เมื่อวันที่ 11 พ.ค.68 พล.ต.อัษฎาวุธ ปันยารชุน ผู้บัญชาการกองพลหารราบที่ 9 ในฐานะ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรสีห์ ร่วมบูรณาการกับ นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวในพื้นที่ ว่าจะมีการลักลอบขนแรงงานงานต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามายังพื้นที่ตอนใน จึงได้สั่งการให้ พ.อ.พรรณศักย์ เพรียวพานิช ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 29 ในฐานะ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ พร้อมด้วย พันเอก ปิยะเณศร์ ภัทรศาศวัตวงษ์ รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ นำกำลังพลร่วมกับ กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 134 สภ.สังขละบุรี และหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ อำเภอสังขละบุรี ภายหลังได้รับแจ้งจากสายข่าวในพื้นที่ว่าจะมีการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย บริเวณ บ้านดงสัก ม.2 ต.วังกะ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี จึงได้จัดกำลังลาดตระเวนเฝ้าตรวจในพื้นที่ดังกล่าว

กระทั่งเวลา 20.00 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังลาดตระเวนเฝ้าตรวจ พบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยจำนวนมาก บริเวณริมน้ำชายป่าบ้านดงสัก จึงแสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่เพื่อทำการตรวจสอบ พบ กลุ่มบุคคลลักษณะคล้ายต่างด้าว จำนวน 22 คน จึงขอทำการตรวจสอบเอกสารประจำตัวที่ทางราชการออกให้ แต่กลุ่มบุคคลดังกล่าวไม่สามารถแสดงเอกสารต่อเจ้าหน้าที่ได้ จึงได้นำตัวกลุ่มต่างด้าวผิดกฎหมายทั้งหมด มาตรวจสอบสัมภาระประจำตัวบริเวณบ้านพลเมืองดีใกล้เคียงพื้นที่จับกุม แต่ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายแต่อย่างใด จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการจับกุมกลุ่มแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายทั้งหมด และส่งตัวให้ สภ.สังขละบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการซักถาม ทราบว่า แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายกลุ่มดังกล่าว เดินทางมาจาก อ.พญาตองซู ประเทศเมียนมา นั่งรถจักรยานยนต์จาก บ้านบ่อญี่ปุ่น และใช้เส้นทางธรรมชาติอ้อมด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง จากนั้นขึ้นรถยนต์กระบะมาลงบริเวณริมน้ำชายป่าบ้านดงสัก เพื่อรอขึ้นเรือบริเวณดังกล่าวเข้าสู่พื้นที่ตอนในต่อไป แต่ในระหว่างที่รอเรือมารับนั้น ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้เสียก่อน นอกจากนี้แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายกลุ่มดังกล่าว ให้การว่า พวกตนมีความประสงค์ที่จะหลบหนีเข้าเมืองเพื่อไปทำงานที่ จ.กาญจนบุรี และ จ.สมุทรสาคร ซึ่งจะเสียค่าจ้างให้กับนายหน้าคนละ 15,000 – 20,000 บาท เมื่อถึงปลายทาง.