เกิดเหตุไฟไหม้พื้นที่เก็บใบอ้อย 10 ไร่ ของโรงงานแห่งหนึ่งในอำเภอท่ามะกา กาญจนบุรี เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็ว รถดับเพลิงกว่า 10 คันและรถแบคโฮ 6 คันเร่งดับไฟ คาดใช้เวลาหลายวันควบคุมเพลิงได้ สาเหตุยังไม่ทราบ โชคดีที่ไม่มีบ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ เบื้องต้นเทศบาลตำบลท่าไม้แจ้งเตือนประชาชนให้สวมหน้ากากอนามัยเนื่องจากควันไฟ

เมื่อเวลาประมาณ 03.30 น. ของวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 เกิดเหตุเพลิงไหม้รุนแรงในพื้นที่เก็บใบอ้อยของโรงงานแห่งหนึ่ง หมู่ 1 ตำบลยางม่วง อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี โดยเพลิงลุกลามอย่างรวดเร็วและรุนแรงขึ้นในเวลา 04.00 น. เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เข้าเวรเป็นผู้พบเห็นกลุ่มควันและเปลวไฟที่ลุกไหม้บริเวณดังกล่าว จึงรีบแจ้งไปยังโรงงานเพื่อขอความช่วยเหลือในการดับเพลิง

ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. เพลิงและกลุ่มควันยังคงโหมกระหน่ำ เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี และฝ่ายปกครองอำเภอท่ามะกา ได้เข้าตรวจสอบและประเมินสถานการณ์ พร้อมทั้งระดมรถดับเพลิงจากเทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบลใกล้เคียงกว่า 10 คัน รวมถึงรถแบคโฮอีก 6 คัน เพื่อเร่งดับไฟ

เนื่องจากพื้นที่เก็บใบอ้อยมีขนาดใหญ่ถึง 10 ไร่ และมีปริมาณใบอ้อยสะสมอยู่จำนวนมาก ประกอบกับจุดต้นเพลิงอยู่บริเวณกลางพื้นที่ ทำให้การดับเพลิงเป็นไปด้วยความยากลำบาก เจ้าหน้าที่ต้องใช้รถแบคโฮทยอยตักใบอ้อยออกมาทีละส่วนเพื่อให้รถดับเพลิงฉีดน้ำสกัดเพลิง ทำให้ยังไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ เนื่องจากไม่เคยมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นมาก่อน

ใบอ้อยที่ถูกเพลิงไหม้เป็นเศษใบอ้อยที่เหลือจากการตัดอ้อยในไร่ ซึ่งทางโรงงานได้นำมากองเก็บไว้เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงนักดับเพลิงคาดการณ์ว่าการดับเพลิงอาจต้องใช้เวลาหลายวัน เนื่องจากต้องใช้รถแบคโฮค่อยๆ เคลียร์ใบอ้อยและฉีดน้ำดับอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันการปะทุซ้ำเคราะห์ดีที่บริเวณดังกล่าวไม่ติดกับบ้านเรือนประชาชน จึงไม่มีความเสี่ยงที่จะลุกลามไปยังที่อยู่อาศัย

นายพรรษา สายทอง ว่าที่นายกเทศมนตรีตำบลท่าไม้ ซึ่งได้เข้าตรวจสอบสถานการณ์ตั้งแต่เวลา 04.00 น. กล่าวว่า ขณะนี้กำลังเร่งให้รถแบคโฮเปิดทางเข้าไปดับไฟจากด้านใน เพื่อให้สามารถควบคุมเพลิงได้รวดเร็วขึ้น ส่วนผลกระทบต่อประชาชนนั้น เนื่องจากทิศทางลมพัดไปยังตำบลท่าไม้และอำเภอท่ามะกา จึงได้แจ้งให้เทศบาลตำบลท่าไม้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการสูดดมควันโดยตรง และคาดการณ์ว่าการดับเพลิงทั้งหมดอาจต้องใช้เวลาประมาณ 4 วัน