วันจันทร์ ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2568 10:39 น.

ภูมิภาค

ยังไร้ร่องรอย! "เจ๊แก้ว" เจ้าของแผงทุเรียนหายตัวปริศนา สามีคาดหายตัวขณะขี่จยย.ไปหาของกิน หวั่นถูกลักพาตัว

วันจันทร์ ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 14.01 น.

จากกรณีที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานีได้รับแจ้งจากนายพงศ์พันธ์ (พงศ์) แซ่ตั้น อายุ 44 สามี นางสุจิตรา (เจ๊แก้ว) กุลจันทร์ อายุ 43 ปี  เจ้าของแผงทุเรียนรายใหญ่ในตลาดโพธิ์หวาย เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ว่า ได้ไปหายตัวไปขณะขับรถจักรยานยนต์ออกจากแผงในตลาดโพธิ์หวาย เพื่อกลับบ้านพักที่อยู่แถวตลาดล่างห่างจากตลาดประมาณ 2 กม. เมื่อเวลาประมาณ 19.40 น.ของคืนวันเสาร์ที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา  ทางครอบครัวไม่สามารถติดต่อได้จนถึงปัจจุบัน

ล่าสุดเช้าวันนี้ (19 พ.ค.68) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่แผงขายส่งทุเรียนในตลาดโพธิ์หวาย พบกับ นายพงศ์พันธ์ (พงศ์) แซ่ตั้น สามีเจ๊แก้ว โดยนายพงศ์ บอกว่า ขณะเกิดเหตุตนเดินทางไปซื้อทุเรียนที่จังหวัดจันทบุรี แต่ก็ติดต่อกับภรรยาตลอด ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 18.00 น.ภรรยาขับรถจักรยานยนต์ไปห้างบิ๊กซี เพื่อโอนเงินค่าซื้อทุเรียนจำนวนกว่า 2 แสนบาท จากนั้นก็ขับจักรยานยนต์กลับมาที่แผงเพื่อรอลูกค้าที่เดินทางมาจากจังหวัดพังงาเพื่อมาส่งทุเรียน 1 คันรถกระบะ

จนกระทั่ง ประมาณ เกือบ 2 ทุ่มตนได้รับโทรศัพท์จากลูกค้าว่าแผงปิดภรรยาไม่อยู่ที่แผง ขอให้ตนติดต่อให้ ตนก็พยายามโทรศัพท์แต่ติดต่อไม่ได้ จึงให้ญาติของภรรยามาดูที่แผงเกรงว่าจะเกิดอันตรายกับภรรยา แต่เมื่อญาติมาดูก็ไม่พบใคร ตนจึงรีบขับรถกลับจากจังหวัดจันทบุรี เมื่อมาถึงก็เข้าแจ้งความต่อตำรวจทันที

นายพงศ์ ยืนยันว่า เรื่องการหายตัวไม่ใช่เรื่องของชู้สาวแน่นอน แต่คาดว่าน่าคนร้ายน่าจะประสงค์ต่อทรัพย์สินที่ภรรยาตนใส่อยู่ และคาดว่าน่าจะเป็นการวางแผนไว้ก่อนหน้านี้

ตนคาดว่าขณะที่ภรรยาตนนั่งรอลูกค้าอยู่ที่แผงที่ลูกค้าจะนำทุเรียนมาส่งในเวลา 19.30 น.แต่ก่อนลูกค้าจะมาถึงคาดว่าน่าจะขับรถจักรยานยนต์ออกไปหาซื้อของกิน และอาจจะถูกคนร้ายประกบเอาตัวไป ในช่วงที่ขับรถไปหาของกิน ส่วนโทรศัพท์ทั้ง 2 เครื่องที่ในเบื้องต้นแจ้งว่าหายไปนั้น ต่อมาค้นพบอยู่ในร้านโดยทั้ง 2 เครื่องแบตเตอรี่หมด และในร้านยังพบเงินที่เตรียมไว้จ่ายค่าทุเรียนอีกหลายแสนบาท

ขณะนี้ยังไม่มีการติดต่อหรือทรายข่าวของภรรยาเลย ทุกคนในครอบครัวเป็นห่วงมาก วอนทางตำรวจเร่งคลี่คลายและวอนชาวโซเซียลและประชาชนที่พบเบาะแสช่วยแจ้งทางตำรวจด้วย

ในขณะที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานียังคงไล่ตรวจกล้องวงจรปิดของเอกชนในบริเวณใกล้เคียงส่วนกล้องวงจรปิดของเทศบาลนครสุราษฎร์ไม่สามารถตรวจดูได้เนื่องจาก ทางเทศบาลกำลังปรับปรุงเอาสายไฟฟ้าลงดินและถอนเสาไฟฟ้าออกจากพื้นที่ จึงถอดระบบกล้องออกทั้งหมด.

หน้าแรก » ภูมิภาค