วันที่ 22 พ.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานมีเรื่องราวสุดหดหู่ใจ เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อว่า ครูตะวัน ประทีบแห่งที่ราบสูง ได้โพสต์เรื่องราวของด.ช.อาต้า อายุ 12 ปี อยู่บ้านโนนจำปา อ.กุมภวาปี หนีไปนอนที่โรงอาหารของโรงเรียนบ้านโนนจำปา ต.ตูมใต้ อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ซึ่งเป็น โรงเรียนร้าง มีมุ้งหลังเล็กๆ นอนกับพื้น และที่น่าสงสารคือมีภาพรูปถ่ายของแม่ที่เสียชีวิตไปแล้วอยู่ข้างๆ ที่นอน ส่วนสาเหตุที่น้องอาต้าไปนอนที่โรงเรียนร้าง ทราบว่า พ่อแท้ๆ ทำร้ายร่างกาย ส่วนปู่และย่าก็รักหลานไม่เท่ากัน จึงหนีออกมานอนที่โรงเรียนร้างดังกล่าว และทราบอีกว่าน้องอาต้ามีชื่อเป็นนักเรียนคนสุดท้ายที่โรงเรียนแห่งนี้หลังจากถูกยุบไป ต่อมาชาวบ้านได้พาหนูน้อยอาต้าไปฝากไว้กับ พระมหาวัฒนา จิตตสาโร เจ้าอาวาสวัดบ้านโนนจำปา ให้ที่นอนเป็นการชั่วคราว

โดยเมื่อช่วงเย็นวานนี้ ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่โรงเรียนปะโค ต.ปะโค อ.กุมภวาปี ซึ่งเป็นโรงเรียนที่น้องอาต้าย้ายมาเรียนอยู่ชั้นป. 6 ที่เพิ่งเปิดเทอมได้ไม่กี่วัน พบกับนายนิคม วงษ์ก่อ ผอ.โรงเรียนบ้านปะโค พร้อมคณะครูพูดคุยถึงน้องอาต้า โดยวันนี้มีเจ้าหน้าที่จาก พมจ.อุดรธานี เดินทางมาสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับน้องอาต้าด้วย พบว่ามีปัญหาครอบครัวถูกพ่อแท้ๆ ทำร้ายประจำ ส่วนแม่เสียชีวิตไปแล้ว จึงได้ประสานรพ.กุมภวาปีให้น้องอาต้าตรวจร่างกายและทำเรื่องให้น้องอาต้าไปอยู่ที่บ้านพักเด็กและเยาวชน และให้การช่วยเหลือเรื่องการเรียนต่อไป

โดยทางเจ้าหน้าที่ พมจ.อุดรธานี ได้นำตัวน้องอาต้าไปตรวจร่างกาย 6 โรค ที่รพ.กุมภวาปี ขณะนี้ได้นำตัวน้องอาต้าไปพักที่บ้านพักเด็กและเยาวชนจ.อุดรธานี และเตรียมช่วยเหลือการเรียนที่โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ที่จ.หนองคายในโอกาสต่อไป
 
ส่วนกรณีพ่อแท้ๆ ทำร้ายร่างกายน้องอาต้า ปู่และย่ารักหลานลำเอียง จนต้องหนีไปนอนโรงเรียนร้างนอนข้างรูปถ่ายแม่  เรื่องนี้ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านหลังหนึ่งที่บ้านโนนจำปา หมู่ 5 ต.ตูมใต้ อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี เพื่อฟังอีกมุมของพ่อและย่า พบกับนางสำรอง อายุ 66 ปี หรือชื่อเล่น ตั้น ย่าของน้องอาต้า บอกเรื่องนี้ว่า ไม่เป็นความจริงเลยที่มีข่าวออกไปว่าย่าไม่รักหลาน รักหลานลำเอียง แล้วไล่อาต้าไปนอนโรงเรียน คนเสพดูข่าวฟังยายบ้าง ยายโกรธนะไม่รู้เรื่องอะไรแล้วมาหาว่ายายไม่รักหลาน  ยายไม่เคยคิดจะทิ้งหลานชาย เขาหนีไปนอนโรงเรียนร้างก็ไปตาม แต่พอไปหลานวิ่งหนีหลบไม่อยากกลับบ้าน  สาเหตุที่เขาหนีไปนอนโรงเรียนร้างเพราะเขากลัวพ่อเขาใช้ทำโน่นทำนี่ อย่างใช้นวดทั้งคืนจนไม่ได้นอน บางวันก็ใช้ซักผ้า ล้างจาน เขาเลยหนีออกไป อยากจะเล่นเกมส์อิสระเพราะติดเกมส์มือถือมาก หลานคนนี้ตามความรู้สึกของยายเป็นคนฉาลาดแกมโกง บางคืนไม่นอนเลยเล่นแต่โทรศัพท์ พอยายไปตามไม่กลับมา ยายก็เลยตามเลย ตอนนี้ยายไปวัดก็ไม่ได้จนชาวบ้านนินจาว่าไม่รักหลาน ปล่อยให้หลานหนีไปนอนโรงเรียนร้าง ส่วนที่เขานอนข้างรูปถ่ายแม่ รู้แต่ว่าแม่เขาชื่อตี๊นา เป็นคนเขมร ได้ยินข่าวว่าถูกข่มขืนแล้วฆ่าไม่รู้ที่ไหนมาหลายปีแล้ว เขาคงคิดถึงแม่เขาจึงเอารูปถ่ายไปไว้ข้างที่นอน เมื่อวานเจ้าหน้าที่พมจ.มาหายายก็บอกว่า เอาไปก็ดี ถ้าให้อยุ่ตรงนี้เขา

 “เข้าใจหัวอกยายบ้าง รักหลานทุกคนไม่เคยลำเอียง ตอนนี้ยายโกรธมากเลยนะ สูนคักๆ คนดูข่าวทำไมคือพูดให้ยายเยอะมาก เขาเห็นตรงไหนว่ายายทำร้ายหลาน ใครว่าให้ยายอยากจะเอาเรื่อง อยากจะบอกคนดูข่าวด้วย ฟังยายบ้าง ไม่ใช่ดูแต่ข่าวว่ายายลำเอียงก็ด่ายายเลย ยายโกรธมากถ้าเหลือทนคงแจ้งความแน่” ยายตั้นกล่าวตอนท้ายอย่างโมโห

 นายโจอี้ อายุ 47 ปี พ่อของน้องอาต้า ซึ่งเป็นเป็นโรคไตวายระยะสุดท้ายและวัณโรค เปิดใจกับนักข่าวว่า ลูกชายหนีไปนอนโรงเรียนร้าง เพราะเขาเบื่อพ่อ ยอมรับผมใช้ลูกชายบ่อยเพราะผมป่วย ให้ลูกชายนวดทั้งคืนนั้นเรื่องจริง เขาชอบเล่นโทรศัพท์ทั้งคืน ผมก็เรียกให้มานวดให้พ่อเผื่อว่าเขาจะได้หลับก็แค่นั้น ส่วนเรื่องทำร้ายลูกชายก็มีบ้าง ก็ใช้ไม้ตีไม้ฟาดด้วย และด่าประจำ แต่ตอนนี้เลิกทำแล้ว  ในฐานะผมเป็นพ่อ ก็ด่า สั่งสอนลูกธรรมดา อยากให้ลูกรู้ว่า ในชีวิตจริงพวกเราไม่ใช่คนร่ำคนรวย ไม่ใช่ลูกคุณหนูคุณนาย คำพูดคำด่า ไอ้เหี้ ย ไอ้สัตว์ก็เจอบ้าง ผมเป็นพ่อก็รักทุกคน ผมมีลูกาย 2 คน อาต้าเป็นลูกคนสุดท้อง  แต่อาต้าเขาไม่เข้าใจว่าพ่อรัก ผมเป็นห่วงอาต้าคิดถึงอาต้าลูกชาย ผมอยากเข้าไปหาลูกชาย ไปเยี่ยมลูกชาย เพราะผมห่วงลูกชายจะเข้ากับเพื่อนๆ ไม่ได้   อยากให้เขามีชีวิตที่ดี ผมเป็นอย่างนี้ไม่รู้ผมจะตายวันไหน ผมตีลูกก็เพราะผมรักลูกชาย นายโจอี้พูดไปก็น้ำตาไหลออกมา

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่โรงเรียนร้างบ้านโนนจำปา พบว่าอยู่กลางหมู่บ้าน สนามหญ้าหน้าโรงเรียนมีชาวบ้านนำวัวมาเลี้ยงเต็มไปหมด อาคารเรียน 1 หลังและอาคารที่ทำงานคุณครูและโรงอาหาร ห้องน้ำปล่อยร้าง โดยมีชาวบ้านพาผู้สื่อข่าวไปดูสถานที่นอนของน้องอาต้า พบว่าเป็นอาคารโรงอาหารเก่าๆ

นายสิทธิชัย ดิษฐเจริญ อายุ 58 ปี ชาวบ้านโนนจำปา บอกว่าเห็นน้องอาต้ามานอนตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคมแล้ว ก็แปลกใจว่าทำไมเด็กมานอนกางมุ้งอยู่ตรงนี้ ใจจริงผมถ้าไม่มีลูกหลานผมเอาไปเลี้ยงเลย เห็นแล้วก็สงสาร ปู่ย่าก็มีทำไมปล่อยให้เด็กมานอนโดดเดี่ยวแบบนี้ ส่วนสาเหตุที่น้องอาต้ามานอนกางมุ้งโรงเรียนร้างผมรู้มาจากอะไร แต่ได้ยินคร่าวๆ ว่าปู่และย่าไล่ออกจากบ้าน  ก็ดีใจที่มีเจ้าหน้าที่ฯ มารับน้องไปดูแลแล้ว