วันที่ 22 พฤษภาคม 2568 ที่บริเวณสะพานยาวอะควาเรียม ตำบลโพธิ์เสด็จ อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช นายสายัณห์ ยุติธรรม อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคพลังประชารัฐ ออกมาแถลงข่าวแสดงความไม่พอใจต่อรัฐบาล ที่ยังไม่แสดงท่าทีในการแก้ไขปัญหาราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำ และการที่โรงงานผู้ผลิตน้ำมันปาล์มในพื้นที่หยุดรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรมานานกว่า 10 วัน ทำให้ชาวสวนเดือดร้อนอย่างหนัก

นายสายัณห์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันเกษตรกรไม่สามารถจำหน่ายผลปาล์มได้ เนื่องจากโรงงานรับซื้อได้หยุดดำเนินการชั่วคราวโดยไม่มีกำหนด ส่งผลให้ปาล์มที่ถึงรอบเก็บเกี่ยวทุก 15-20 วันเน่าเสียไปโดยเปล่าประโยชน์ ทั้งยังระบุว่า เมื่อ 2 เดือนก่อน ปาล์มขาดตลาด โรงงานหยุดรับซื้อเพราะผลผลิตมีไม่เพียงพอ แต่ขณะนี้กลับปิดอีกครั้งเพราะปาล์มล้นตลาด สะท้อนถึงความล้มเหลวของรัฐบาลในการบริหารจัดการผลผลิตทางการเกษตร

อดีต ส.ส.คนดังยื่นข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล 4 ข้อ ได้แก่

    1    สั่งการให้โรงงานทั่วประเทศกลับมารับซื้อปาล์มน้ำมันจากเกษตรกรทันที และกำหนดราคาขั้นต่ำไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 5 บาท
    2    ให้กระทรวงพาณิชย์ควบคุมราคาสินค้าอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะน้ำมันพืชที่ราคาไม่สมเหตุสมผล ขอให้ลดราคาลง 20%
    3    ขอให้รัฐเร่งลดราคาปุ๋ยลง 20% เนื่องจากราคาเพิ่มสูงสวนทางกับราคาผลผลิต
    4    เสนอให้รัฐช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อย ด้วยการชดเชยส่วนต่างต้นทุนไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกินรายละ 15 ไร่

ทั้งนี้ นายสายัณห์ขีดเส้นตายให้รัฐบาลดำเนินการภายในวันที่ 30 พฤษภาคม 2568 หากยังไร้มาตรการที่ชัดเจน กลุ่มเกษตรกรชาวสวนปาล์มในนครศรีธรรมราชและจังหวัดใกล้เคียงเตรียมเคลื่อนไหวโดยการ ขนผลปาล์มน้ำมันไปเทปิดถนนทางเข้าท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ว่าประชาชนได้รับความเดือดร้อนจริง

นายสายัณห์ยังกล่าวถึงต้นตอของปัญหาว่า อาจมาจากการนำเข้าปาล์มน้ำมันจากประเทศเพื่อนบ้านในช่วงผลผลิตขาดแคลนเมื่อ 2 เดือนก่อน โดยไม่มีการวางแผนระยะยาว ส่งผลให้ขณะนี้ตลาดเกิดภาวะล้นจนโรงงานไม่สามารถรองรับได้ทัน

ต่อคำถามที่ถูกตั้งข้อสังเกตจากสังคมว่า เหตุใดในช่วงที่ดำรงตำแหน่ง ส.ส.ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถึงไม่เห็นมีการเรียกร้องปัญหาเช่นนี้ นายสายัณห์ตอบว่า “ในช่วงรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ โรงงานไม่เคยหยุดรับซื้อ ราคาปาล์มอยู่ในระดับ 5-10 บาทต่อกิโลกรัมอย่างต่อเนื่อง ไม่เหมือนสถานการณ์ที่เลวร้ายในรัฐบาลปัจจุบัน”

สถานการณ์นี้กำลังเป็นที่จับตามองของประชาชนและกลุ่มเกษตรกรทั่วภาคใต้ ซึ่งรอฟังความชัดเจนจากรัฐบาลในการแก้ไขวิกฤตปาล์มน้ำมันที่กำลังส่งผลกระทบรุนแรงต่อชีวิตความเป็นอยู่ของชาวสวนปาล์มจำนวนมาก.