คณะกรรมการสถานศึกษาลงมติไม่เอาครูนักร้องกลับโรงเรียนหากกลับมาทั้งนักเรียนส่วนหนึ่งและครูจะเขียนย้ายออก เนื่องจากสร้างปัญหาตลอดเวลาและนำข้อมูลที่ไม่จริงไปทำให้เกิดวามเสียหายกับส่วนรวม
 

วันที่ 23 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงเรียนมหาราช 7 อ.จอมบึง จ.ราชบุรี นายสราวุฒิ มาประดิษฐ์ นายก อบต.แก้มอ้น ประธานคณะกรรมการสถานศึกษา พร้อมทั้งคณะกรรมการเข้าร่วมประชุม เพื่อร่วมพิจารณาปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นจนเกิดความเสียหาย ตามที่มีการร้องเรียนของครู กล่าวหา ผอ.รร. เกี่ยวกับความขัดแย้งภายในโรงเรียนมหาราช 7 ว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจาก ผอ. ร.ร.และ สพป.ราชบุรี เขต 1 จากการที่ครูได้ร้องเรียนการทุจริตของผู้บริหาร โรงเรียน ทาง สพป.ราชบุรี เขต 1 ได้มีคำสั่งให้ ผอ.รร.ไปปฏิบัติหน้าที่ที่โรงเรียนบ้านสันดอน และมีคำสั่งให้ครู ที่ได้รับการร้องเรียนด้วยเช่นกันโดยมีนักเรียน คณะกรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครอง ภายในโรงเรียน กว่า 30 คน จึงได้ย้ายให้ไปช่วยราชการที่โรงเรียนบ้านโกรกสิ่งขร เมื่อได้รับเรื่องร้องเรียนทั้งสองคน สพป.ราชบุรี เขต 1 ได้ดำเนินการตามระเบียบและกฎเกี่ยวข้อง โดยได้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงและคณะกรรมการ สอบสวนวินัย ที่มีความเป็นกลางและเป็นธรรม ทั้งสองคนที่ถูกร้องเรียน คณะกรรมการฯได้รับฟังข้อมูลจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งผู้ร้องเรียน ผู้ถูกร้องเรียน และพยานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้คณะกรรมการสอบสวนวินัย ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างรายงาน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาฯ เพื่อพิจารณาตามอำนาจหน้าที่ ทั้งนี้ สพป.ราชบุรี เขต 1 มีคำสั่งให้ ผอ.รร.กลับไปปฏิบัติงานที่โรงเรียนเดิม พร้อมทั้งทางคณะกรรมการสถานศึกษาได้มีมติให้กลับเข้าทำงาน เพื่อเร่งพัฒนา 1 โรงเรียน 3 รูปแบบ ที่เป็นต้นแบบของประเทศ คณะครูและชุมชน ส่วนใหญ่ยินดีที่ผอ.รร.กลับไปปฏิบัติงาน แต่ทางด้านโรงเรียนบ้านโกรกสิ่งขร มีหนังสือถึง ผอ.สพป.ราชบุรี เขต 1 ให้ ครู ไปปฏิบัติราชการที่โรงเรียนอื่น เนื่องจากมีความกังวล และไม่ความสบายใจในการทำงานร่วมกัน ในการนี้ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 มีมตีให้ครู ปฏิบัติหน้าที่ที่โรงเรียนบ้านโกรกสิงทรต่อไป และมีมตีให้กลับสถานศึกษาเดิมเมื่อครูได้แก้ข้อกล่าวหาพร้อมนำพยานหลักฐานมาให้คณะกรรมการสอบสวน จึงจะให้กลับไปปฏิบัติหน้าที่ทางสถานศึกษาเดิมได้ โดยได้แจ้งให้ครูทราบถึงกระบวนการขณะนี้อยู่ระหว่างให้ครูแก้ข้อกล่าวหาพร้อมนำพยานหลักฐาน มาชี้แจง องค์คณะบุคคล ในการดำเนินการด้วย ความเป็นธรรม โปร่งใส ปฏิบัติตามกฎระเบียบวินัยที่เกี่ยวข้อง

นายสราวุฒิ มาประดิษฐ์  กล่าวว่า ในฐานะผมเป็นนายกตำบลแก้มอ้นดูแลอยู่ 8 โรงเรียนและไม่รู้เลยว่าจะมีการร้องเรียนเรื่องอาหารกลางวันได้ชวนปลัดและผอ.การศึกษาออกตรวจทุกโรงเรียนว่าได้ทำตามโภชนาการอย่างที่ให้ไว้ไหมจะออกตรวจทุกโรงเรียนแต่ที่โรงเรียนมหาราช 7 นี้เท่าที่ตรวจสอบก็ถือว่าใช้ได้สะอาดครบถ้วนตามที่มีใบโบชัวร์มาให้แต่บางโรงเรียนยังมีผิดพลาดก็ให้ทำใหม่ส่วนที่มหาราช 7 ไม่รู้ว่าไปร้องได้ยังไงอาหารที่เด็กกินก็พอกินร้องไปถึงเรื่องทุจริตที่จริงแล้วมันไม่ใช่ไม่ทราบว่าคนที่ร้องเขาคิดอย่างไรที่ว่าอาหารไม่พอให้เด็กกินอาหารมีมากพอที่กล่าวหาว่าทุจริตก็ได้มีการสอบสวนก็ไม่เจอเรื่องทุจริตถึงได้ให้ ผอ. กลับมาโรงเรียนและทางคณะกรรมการก็ได้มีมติให้ผอ. กลับมาทำงานส่วนครูที่ร้องเรียนไม่ให้เอากลับมากลัวมีปัญหากับครูในโรงเรียนอีกถ้าไม่มีคนที่ร้องทุกวันนี้โรงเรียนเราเป็นต้นแบบของกระทรวงศึกษา1 โรงเรียน 3 รูปแบบเป็นแนวทางที่ดีเด็กที่ไม่จบได้โอกาสก็ตามให้มาเรียนให้จบทำผ่านไปแล้ว 2 รุ่นได้มีวุฒิใบรับรองการศึกษามีงานทำอยากจะฝากให้สื่อประชาสัมพันธ์ในที่ประชุมคณะกรรมการสถานศึกษาไม่ขอรับครูที่สร้างปัญหากลับมา
 

กลุ่มแม่ครัว ในโรงเรียน  อยากให้ผู้ปกครองเข้ามาดูสุ่มเข้ามาดูวันละคนมั่นใจว่าเราทำเสมอต้นเสมอปลายปัญหาที่เกิดก็มาจากครูคนเดียวทำให้ไม่ใช่เพียงอาหารอย่างเดียวไม่ทราบว่าเขาต้องการอะไรทั้งโรงเรียนก็มีคนเดียวทำให้เกิดปัญหาเด็กไม่อิ่มก็มาเติมกันได้กินเผ็ดไม่ได้เราก็แก้ไขให้ส่วนใหญ่จะพอใจกันแทบทุกคนก่อนเคยให้ตักเองกินไม่หมดก็ทิ้งเสียหายจะตักเล่นกันไม่เคยจำกัดอาหารจะตักเพิ่มกี่ครั้งก็ได้ให้เด็กอิ่มมีผู้ปกครองมาบอกว่าลูกเขากินไม่อิ่มแล้วก็ไม่เคยเข้ามาดูและมาคุยกันเท่าที่เห็นเด็กกินเก่งตักหลายหนเท่าที่รู้ก็มีปัญหาอยู่คนเดียวเท่านั้น

กลุ่มนักเรียนที่ครูเคยสอยมาเมื่อชั้น ป.4 ครูที่สอนไม่ค่อยดีเท่าไหร่จะสั่งงานและให้อยู่นอกห้องอยู่ที่ศาลาถ้าทำงานเสร็จก็ให้ไปส่งในห้องครูจะอยู่แต่ในห้องนั่งเล่นโทรศัพท์บางครั้งก็นอนหลับบางครั้งก็เอาอาหารมากินด้วยจะทำเป็นประจำไม่ค่อยได้ความรู้เลยเขาสอนสังคมกับประวัติศาสตร์จะให้ใบงานอย่างเดียววิชาที่สอนจะตกลงไปมากกดดันเหนื่อยแต่ไม่ได้ความรู้เครียดมากเลยเขาไม่ให้ความรู้พวกหนูเลยถ้าเขากลับมาไม่ยินดีต้อนรับเลยถ้าหากเขาไม่ได้มาก็ยินดีมากๆเลยสำหรับอาหารกลางวันก็คิดว่าพอใช้ได้แต่บางคนอาจจะไม่ถูกใจเพราะลิ้นคนไม่เหมือนกันรับรสชาติไม่เหมือนกันสำหรับอาหารไม่พอก็เพิ่มได้ตลอด
 

ทางด้านนายเอก (นามสมมุติ) ครูในโรงเรียน ออกมาระบายวามในใจ หลังจากครูไปร้องเรียนรู้สึกอับอายเวลาออกไปซื้อของจะรู้สึกอายชาวบ้านเมื่อเขาเห็นข่าวก็ตัดสินว่าครูไม่ดีโรงเรียนนี้แย่ไปประชุมที่อื่นก็จะถูกมองว่าเป็นคนไม่ดีที่เขาร้องเรียนทุกข้อกล่าวหาไม่เป็นความจริงเลยไม่จริงสักเรื่องเรื่องอาหารกลางวันเรื่อง ผอ.กร่าง ทุกเรื่องที่เขาร้องอยากให้เข้ามาตรวจสอบพร้อมที่จะชี้แจงไม่อยากให้เขากลับมาทุกคนกลัวเพราะเขามีพฤติกรรมชอบข่มขู่เขาอ้างรู้จักคนใหญ่คนโตเยอะเขาเป็นคนมีอิทธิพลรู้จักอัยการรู้จักตำรวจไม่อยากให้กลับมามีการพูดคุยกันว่าถ้ากลับมาก็จะเขียนย้ายทั้งโรงเรียนมีคนสอบถามกันมามากว่าไม่ผิดทำไมถึงไม่พูดเพราะไม่มีโอกาสที่จะพูดไม่ได้พูดอยากจะบอกว่าทุกๆอย่างมันสามารถตรวจสอบได้ทั้งหมดและอยากให้สังคมมองอีกด้านหนึ่งด้วยสังคมไทยใครพูดก่อนก็จะถูกต้องเสมอสมัยตอนเด็กๆจะมองว่าครูเสมือนพ่อเหมือนแม่ถ้าวันนี้สังคมยังด้อยค่าครูครูก็จะไม่ตระหนักและรู้คุณค่าของตัวเองว่าเป็นครูหน้าที่ของครูก็คืออยู่กับเด็กปัญหาที่เกิดขึ้นจากความไม่พอใจ รอง ผอ.มีปัญหาส่วนตัวกันก็มีการร้องเรียนเกิดขึ้นทั้ง ผอ.ได้เรียกประชุมครูและชี้แจงรายละเอียดรองผู้อำนวยการไม่ผิดทำให้เกิดความไม่พอใจจึงไปฟ้อง ผอ.

ดร.บรรเจิด อุ่นมณีรัตน์ ผอ.สพป.ราชบุรี เขต 1 กล่าวว่า หากคณะกรรมการสถานศึกษาไม่ยอมรับคุณครูจะกลับมาโรงเรียนเดิมเราจะทำงานแบบใช้กฎระเบียบที่ได้นำคุณครูออกจากโรงเรียนตอนแรกเป็นเรื่องของการขัดแย้งและกระบวนการสืบสอบวินัยเมื่อสาเหตุของการนำออกจบสิ้นก็จะต้องส่งคุณครูกลับและจะต้องเริ่มนับหนึ่งกันใหม่ทางชุมชนจะต้อนรับหรือไม่ เพราะยังไม่เกิดขึ้นในตอนนี้ จะต้องรอดูสถานการณ์ซึ่งการทำงานจะทำให้เกิดความเสียหายกับโรงเรียนและเด็กนักเรียนให้น้อยที่สุด