สืบเนื่อง นายชาญวิทย์ แพงจะโป๊ะ หรือบอย อายุ 23 ปี บ้านเลขที่ 131 หมู่ 5 บ้านนาโพธิ์ ต.บ้านผึ้ง อ.เมือง จ.นครพนม พนักงานทั่วไปโรงพยาบาลนครพนม เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.พิชานน ปลื้มสุด รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนครพนม ว่า เวลาประมาณเที่ยงคืนเศษ วันที่ 22 พฤษภาคม 2568 ได้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ รุ่น 110ไอ สีขาวแดง ทะเบียน 8181 มุกดาหาร ไว้ที่บริเวณที่จอดรถจักรยานยนต์ของโรงพยาบาลฯ โดยไม่ได้ล็อคคอ ต่อมาเวลาประมาณตีสอง ได้กลับมายังจุดที่จอดรถดังกล่าว พบว่ารถจักรยานยนต์ของตนอันตธานหายไป สอบถามผู้คนบริเวณนั้นก็ไม่มีผู้ใดพบเห็น จึงตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด พบชายหญิงคู่หนึ่งแต่งกายมิดชิด เป็นผู้เข้าไปขโมยรถของตน โดยผู้ชายเดินหารถคันที่ไม่ได้ล็อคคอ ก่อนจะใช้กุญแจผีสตาร์ทเครื่อง ให้ผู้หญิงที่มาด้วยขับออกไป จึงชวนคุณป้านางสุฬีพร แพงจะโป๊ะ อายุ 53 ปี พามาแจ้งความกับพนักงานสอบสวนดังกล่าว
           

นายชาญวิทย์ แพงจะโป๊ะ หรือบอย อายุ 23 ปี เปิดเผยรายละเอียดกับผู้สื่อข่าว ว่า ได้ขับรถจักรยานยนต์ออกจากบ้านนาโพธิ์ หมู่ 5 ต.บ้านผึ้ง อ.เมืองนครพนม เพื่อเข้าเวรดึกตอนเวลาเที่ยงคืน โดยจอดไว้ที่หน้าอาคารศูนย์กู้ชีพ 1669 และเดินสวนกับชายหญิงคู่หนึ่ง ซึ่งภายหลังที่ได้ดูจากกล้องวงจรปิด ก็จำลักษณะได้ว่าเป็นสองคนนี้ที่เดินมาดูลาดเลา และร่วมกันขโมยรถตนไป จึงแจ้งความกับ ร.ต.อ.พิชานน ปลื้มสุด รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนครพนม ไว้เป็นหลักฐาน ขณะที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้แกะรอยจากกล้องวงจรปิด เพื่อล่าตัวผัวเมียคู่นี้มาดำเนินคดี
           

ด้าน นางสุฬีพร แพงจะโป๊ะ ป้าของนายบอยกล่าวว่า หลานชายเดือดร้อนหนัก เพราะไม่มีรถไปเข้าเวรทำงาน  วอนคนร้ายเอารถมาคืนด้วย ที่สำคัญโรงพยาบาลควรหาสถานที่ที่ปลอดภัย  สำหรับให้เจ้าหน้าที่ไว้จอดรถตอนเข้าเวร และที่น่าตกใจเพราะรถจักรยานยนต์ของหลานชายหายเป็นคันที่ 3 แล้ว
           

โดยจากการสอบสวนและตรวจกล้องวงจรปิด พบว่าชายหญิงคู่นี้คาดเป็นสามีภรรยากัน ไม่ได้เข้ามาเยี่ยมคนป่วยแต่อย่างใด ตรงกันข้ามทั้งคู่เดินหารถจักรยานยนต์เป้าหมาย ที่มีออเดอร์จากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะรถยี่ห้อฮอนด้าเวฟ ถือเป็นที่ต้องการของตลาดมาก เชื่อว่าน่าจะเป็นคนร้ายคนเดียวกัน ที่เข้ามาขโมยรถจักรยานยนต์ในโรงพยาบาล หายไปประมาณ 2-3 คัน