วันนี้ 24 พ.ค.68 ที่จังหวัดนครพนม ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านกุดฉิม หลังเกษตรกรร้องว่าเดือดร้อนหอมแบ่งราคาตกต่ำ เหลือ กก.ละ 15 บาท จากราคาที่พันธุ์ซื้อมา กก.ละ 120 -160 บาท เป็นพันธุ์ลับแล จาก จังหวัดอุตรดิตถ์ ผู้สื่อข่าวได้พบตัวแทนเกษตรกรชาวบ้านกุดฉิม ตำบลกุดฉิม อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม ที่ได้รับความเดือดร้อน นางศวัสดี ไชยวงษ์ อายุ 58 ปี กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ปีนี้ได้ลงทุนปลูกหอมแบ่งโดยซื้อพันธุ์มาปลูกหลายแสนบาท แต่ผู้ซื้อไม่มารับซื้อ บางรายมาขอซื้อ กก.ละ 4-10 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำเกินไปขายไม่ได้

ด้าน นายทสี ละมูลมอญ อายุ 54 ปี ตนลงทุนซื้อพันธุ์มา 3-4 แสนบาท โดยนำโฉนดบ้านไปจำนอง ธนาคาร ธกส.นำเงินมาลงทุน เมื่อขายหอมไม่ได้ ไม่มีเงินชำระหนี้ ทาง ธกส.ก็ทวงถามอยู่ตลอดเวลา ตอนนี้ยังไม่มีเงินไปจ่าย ธกส.เลย

 ส่วน นางบัวลา นนทรา อายุ 65 ปี เกษตรกรอีกรายที่ได้รับความเดือนร้อน ปลูกหอมในพื้นที่ 5 ไร่ ลงทุน 500,000 บาท ทุกปีไม่มีปัญหา มาปีนี้พ่อค้าคนกลางไม่มาซื้อ หรือบางราย ลดจำนวนการซื้อลง ทำให้ขายหอมไม่ได้ ขาดทุนย่อยยับ ตนซื้อพันธุ์มา 120-160 บาทเหมือนเกษตรรายอื่น แต่ราคาขายตอนนี้ เหลือ 15 บาท เกษตรกร ทั้ง 3 ราย เป็นเป็นเสียงเดียวกันอยากให้หน่วยงานราชการลงมาดูแล ช่วยหาทางออก ขณะนี้หมดทางไปแล้ว ช่วงนี้หากขายพันธุ์หอมแบ่ง กก.ละ 25 บาท พวกตนพร้อมขายแม้จะขาดทุนก็ตาม
 

นอกจากนั้นกลุ่มเกษตรกรยังต้องเผชิญกับราคาปุ๋ยเคมีภัณฑ์ที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกษตรกรต้องแบกรับภาระขาดทุนย่อยยับ ไม่คุ้มแม้กระทั่งค่าปุ๋ยและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ยังไม่รวมค่าแรงและค่าเสียโอกาสในชีวิต สร้างความเดือดร้อนแสนสาหัสจนแทบไม่มีเงินใช้จ่ายในครอบครัว ลูกหลานเปิดเทอมก็ยังต้องแบกรับภาระหนี้สินรุงรังชีวิตที่สิ้นหวังรอคอยความช่วยเหลือ ตัวแทน เกษตรกรระบายความอัดอั้นตันใจว่า ในสถานการณ์เช่นนี้ พวกเขาแทบจะสิ้นหวัง ดีที่ธนาคาร ธ.ก.ส. ได้พักชำระหนี้ให้ แต่เงินที่จะนำมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันแทบไม่มีเลย สร้างความกังวลใจอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อลูกหลานต้องเปิดภาคเรียน และที่สำคัญคือ ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาให้ความช่วยเหลืออย่างเป็นรูปธรรม ทำให้ความหวังของเกษตรกรริบหรี่ลงทุกวัน

ด้าน นายแพทย์อลงกต มณีกาศ สส.นครพนม เขต 3 ไม่ได้นิ่งนอนใจ มอบหมายให้ นายสุนทร บุญมณี ผู้ช่วย ส.ส. นครพนม ลงพื้นที่รับฟังปัญหาจากเกษตรกรผู้ปลูกหอมตำบลกุดฉิมเบื้องต้น พร้อมให้เกษตรกรรวบรวมรายชื่อผู้ได้รับความเดือดร้อน เพื่อรายงานต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและหาแนวทางช่วยเหลือต่อไป

เกษตรกรทุกคนต่างฝากความหวังไว้กับ ส.ส.อลงกต มณีกาศ ให้ช่วยเป็นกระบอกเสียง นำปัญหาความเดือดร้อนนี้ไปสู่รัฐบาล เพื่อหามาตรการช่วยเหลือและเยียวยาอย่างเร่งด่วน ก่อนที่สถานการณ์จะเลวร้ายไปมากกว่านี้ สมดังสโลแกนที่ว่า "พูดแล้วต้องทำ รับปากแล้วต้องได้ มาร่วมกันติดตามว่ารัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเข้ามาช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกหอมริมโขงที่กำลังประสบวิกฤตนี้ได้อย่างไรบ้าง และจะสามารถพลิกฟื้นสถานการณ์ให้ดีขึ้นได้หรือไม่

นายปรีชา มณีสร้อย นายอำเภอธาตุพนม ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า เรื่องนี้ได้ลงพื้นที่เพื่อหาข้อมูลพบว่าทุกๆปีก็ไม่มีปุญหา เพราะผลิตหอมแบ่ง ประมาณ 1, 000 ตันต่อปี มีการระบายออกไปสู่ปลายทาง ในพื้นที่ปลูกในโซน อำเภอเมืองขอนแก่น อำเภอเมืองอุดรธานี อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคามปริมาณจะสมดุลกับหัวพันธุ์ที่ผลิตออกมาเพื่อจำหน่ายปลายทางและในพื้นที่
   

แต่ปีนี้ทราบว่า ราคาตลาดผักสดราคาตกทำให้เกษตรกรผู้ปลูหอมแบ่งที่ปลายทางจำนวนการปลูกลดลง เนื่องจากราคาหอมแบ่งตกต่ำทำให้การระบายหัวพันธุ์หอมแบ่งเกิดความล่าช้า ก็เลยทำให้หัวพันธ์ุหอมแบ่งตกค้างอยู่ในตำบลกุดฉิมทั้ง 12 หมู่บ้านประมาณ 80 ตัน ซึ่งช่วงนี้ พ่อค้าคนกลางก็มารับซื้อ ราคาเฉลี่ยก็ประมาณ 18 บาทต่อกก.เมื่อวานวันที่ 22 พ.ค.มีบางรายมารับซื้อไป 17 บาทต่อ และวันนี้ราคาขึ้นมา 18 บาทต่อ กก.คาดว่าภายในเดือน มิ.ย.นี้ เกษตรกรกับพ่อค้าคนกลางพยายามระบายให้ออกเร็วๆที่สุดเพราะว่าฤดูกาลผลิตเริ่มปลูกในช่วงเดือน มิ.ย. แต่ในช่วงนี้ก็ช่วยกันระบาย เพื่อไม่ให้มีผลกระทบ เนื่องจากว่ามีฝนมาทำให้การจัดเก็บหอมหัวพันธุ์ยาก ถ้าโดนฝนจะทำให้เกิดการฝ่อไม่สามารถที่จะนำไปปลูกและขยายพันธุ์ต่อได้
   

นายปรีชา กล่าวต่อว่า วันจันทร์ที่ 26 พ.ค.68 เวลา 13.30 น.ณ ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอธาตุพนม ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีเกษตรจังหวัด เกษตรและสหกรณ์จังหวัด พาณิชย์จังหวัด ประชุมหารือแก้ไขหาออกทางเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกหัวพันธุ์หอมแบ่ง ต่อไป