สมุทรปราการ-นักเรียนหญิงชั้น ม.6 ซ้อนท้ายแม่ขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านหลังเลิกเรียน ถูกรถบรรทุกพ่วง 20 ล้อทับเสียชีวิตคาที่ ส่วนแม่บาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบนถนนสุขสวัสดิ์ ขาออก เยื้องปั๊มน้ำมันบางจาก ซอยสุขสวัสดิ์ 39

เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ร.ต.ท.ภักดีภูมินท์ ดาวล้อมจันทร์ พนักงานสอบสวน สภ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ รับแจ้งเหตุรถบรรทุกพ่วงชนรถจักรยานยนต์ มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุเป็นถนน 4 เลน พบรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีแดง-ขาว ทะเบียน 2 ขน 5443 กทม. ด้านหน้าและท้ายพังยับเยิน ใกล้กันพบผู้บาดเจ็บ 1 ราย คือ นางสาวเมษา สบายเรื่อย อายุ 41 ปี ขาซ้ายหักผิดรูป มีบาดแผลถลอกตามร่างกาย เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลก่อนนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง

ห่างกันเล็กน้อยพบร่างผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ นางสาวสุพรรษา ซ้อนพุดซา อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนแห่งหนึ่งย่านพระโขนง สวมชุดนักเรียน นอนหงายจมกองเลือด ศีรษะถูกรถทับจนแหลกเละ ใกล้กันมีเป้นักเรียนสีดำตกอยู่

รถคู่กรณีเป็นรถบรรทุกพ่วง 20 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หัวพ่วงทะเบียน 71-7953 ฉะเชิงเทรา ท้ายพ่วงทะเบียน 71-7218 ฉะเชิงเทรา จอดเปิดไฟฉุกเฉิน โดยมี นายเทิดทูล อายุ 42 ปี คนขับ ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่

นอกจากนี้ ยังพบรถยนต์กระบะโตโยต้า ไมตี้เอ็กซ์ สีเทา ทะเบียน ยก 5830 กทม. จอดอยู่ฝั่งตรงข้าม โดย นายสมพร ศรีเมือง อายุ 67 ปี คนขับ ยืนรอให้การกับตำรวจ

นายเทิดทูล คนขับรถบรรทุกพ่วง ให้การว่า ขับรถกลับจากส่งของย่านปู่เจ้า เมื่อถึงจุดเกิดเหตุได้ยินเสียง "ฮวบ" คล้ายล้อรถทับของแข็ง จึงเบรกแล้วลงมาดู พบว่าทับรถจักรยานยนต์ มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต

นางสาวเมษา ผู้บาดเจ็บเล่าว่า ขี่รถจักรยานยนต์กลับจากรับลูกสาวบริเวณพระโขนง เพื่อกลับบ้านพักในซอยสุขสวัสดิ์ 84 ระหว่างทางขี่มาตามปกติ จู่ๆ ก็วูบและจำอะไรไม่ได้อีกเลย

นายสมพร คนขับรถกระบะเล่าว่า ขับรถมาในเลนซ้ายสุด ตีคู่กับรถพ่วง เห็นจักรยานยนต์ล้ม มีคนเจ็บ 2 รายจึงรีบขยับรถไปจอดฝั่งตรงข้าม แล้วเดินกลับมาดู ยืนยันว่ารถตนไม่ได้เฉี่ยวชน เพียงแค่มีรอยครูดที่ล้อยางหลังขวาเท่านั้น

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกภาพและลงบันทึกประจำวันไว้ พร้อมส่งศพผู้เสียชีวิตไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวช และจะสอบสวนผู้ขับขี่รถทั้งสองคันอย่างละเอียด พร้อมประสานกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบรถกระบะว่าเกี่ยวข้องกับเหตุหรือไม่ ก่อนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป