วันศุกร์ ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2568 03:00 น.

ภูมิภาค

อธิบดีกรมการค้าภายในร่วมปล่อยเรือส่งออกน้ำมันปาล์มล็อตใหญ่ จ.สุราษฎร์ธานีไปตลาดต่างประเทศ

วันจันทร์ ที่ 02 มิถุนายน พ.ศ. 2568, 17.14 น.

วันที่ 2 มิถุนายน 2568 ณ ท่าเทียบเรือของบริษัท พี.เค.มารีน เทรดดิ้ง จำกัด ตำบลบางกุ้ง อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานในพิธีตรวจปล่อยเรือบรรทุกน้ำมันปาล์มดิบและน้ำมันเมล็ดในปาล์มกึ่งบริสุทธิ์ เพื่อส่งออกไปยังประเทศอินเดียและประเทศจีน

โดยมีคุณณประกิต ประสิทธิ์ศุภผล  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่พร้อมด้วยนางสาวกัญกร ประสิทธิศุภผล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวต้อนรับ ภายในงานมีผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในพื้นที่เข้าร่วม อาทิ ศุลกากร พาณิชย์จังหวัด เจ้าท่าภูมิภาค ตำรวจน้ำ และตัวแทนองค์กรเกษตรกร

สำหรับการส่งออกในครั้งนี้ ประกอบด้วยน้ำมันปาล์มดิบจำนวนสามหมื่นสองพันตัน (32,000 ตัน) ส่งไปยังประเทศอินเดีย น้ำมันเมล็ดในปาล์มกึ่งบริสุทธิ์จำนวนเจ็ดพันตัน (7,000 ตัน) ส่งไปยังประเทศจีน และกะลาปาล์มจำนวนสองหมื่นตัน (20,000 ตัน) ส่งไปยังประเทศญี่ปุ่น โดยดำเนินการผ่านท่าเทียบเรือของบริษัท พี.เค.มารีน เทรดดิ้ง จำกัด ซึ่งได้รับการรับรองมาตรฐานสากล อาทิ ISO, GGL และ ISPS Code มีศักยภาพรองรับเรือขนส่งน้ำมันลำเลียงสินค้าปริมาณวันละสามหมื่นถึงสี่หมื่นตัน (30,000 – 40,000 ตัน) ไปยังเรือใหญ่บริเวณเกาะพะลวย โดยมีระยะทางประมาณ 130 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางไปกลับเที่ยวละประมาณ 12 ชั่วโมง และมีอัตราการสูบส่งสินค้าผ่านท่อเฉลี่ยอยู่ที่ 170 ตันต่อชั่วโมง

พิธีดังกล่าวสะท้อนความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการลดสต็อกน้ำมันปาล์มส่วนเกินในประเทศ ตามนโยบายการปรับสมดุลปริมาณเพื่อช่วยแก้ปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำ และสร้างเสถียรภาพรายได้ให้เกษตรกรชาวสวนปาล์มทั่วประเทศ

นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า การส่งออกน้ำมันปาล์มเป็นการลดปัญหาเรื่องราคาปาล์ม เป็นการผลักดันการส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน สิ่งนี้จะช่วยให้ผู้ผลิตปาล์มในประเทศเราไม่ได้ล้นตลาดจนเกินไป ทำให้ราคาปาล์มไม่ตกต่ำ เป็นส่วนหนึ่งของการบริหารจัดการ และขอขอบคุณภาครัฐภาคเอกชนที่ร่วมแรงร่วมใจ ไม่ว่าจะเป็นโรงงานสกัดน้ำมัน ,ลานเท,เกษตรกร ก็ได้มีการปรับตัว ในเรื่องของการตัดปาล์มมาจำหน่าย มีการตัดปาล์มที่สุกมากขึ้น จะเห็นได้จากเปอร์เซ็นต์น้ำมัน ล่าสุดอยู่ที่ 17.91 เป็นน้ำมัน CPO. ซึ่งสูงมากในปีนี้

นอกจากนั้นมีการประสานงานกับเกษตรกรและโรงสกัดจัดการแก้ปัญหาเรื่องของการติดคิวและสุดท้ายคือโรงสกัดในการที่ช่วยรับซื้อ และล่าสุดมีการประชุมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ราคาปาล์มขยับเป็น กก.ละ 5.20 บาท แล้ว และเชื่อมั่นว่าปีนี้ปัญหาของปาล์มน้ำมันได้รับการดูแลและแก้ไขอย่างมีประสิทธิภาพ ต้องการสร้างคุณค่าผลผลิตปาล์มน้ำมันประเทศไทยให้แข่งขันกับต่างประเทศได้ทั่วโลก.
 

หน้าแรก » ภูมิภาค