วันที่ 11 มิ.ย. 68  น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานที่ อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ โดยในช่วงเช้าเดินทางไปที่สนามบินบุรีรัมย์ อ.สตึก จากนั้นเดินทางต่อโดยรถยนต์ไปยังห้องประชุม ที่ว่าการอำเภอกาบเชิง จ.สุรินทร์ โดยนายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานการประชุมในประเด็นเรื่องความมั่นคง รวมถึงมาตรการในการสนับสนุน และช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดน ไทยกัมพูชา

โดยนายกฯ ได้เข้าตรวจเยี่ยมจุดแรกโรงพยาบาลกาบเชิงให้กำลังใจเจ้าหน้าที่  และมอบสิ่งของบำรุงขวัญ และกำลังใจให้แก่กำลังพล กองกำลังสุรนารี อ.กาบเชิง  และร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับกำลังพล จากนั้นจะออกเดินทางต่อไปยังจุดผ่านแดนถาวร ช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เพื่อพบปะประชาชนในพื้นที่ และพูดคุยถึ สถานการณ์ปัจจุบันหลังจากสถาณการณ์ชายแดนเริ่มคลี่คลายดีขึ้น“การลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรี และคณะครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญต่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ พร้อมทั้งให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน รวมทั้งรับฟังข้อมูลสถานการณ์โดยตรง เพื่อให้ได้ทราบข้อมูลข้อเท็จจริงนำไปแก้ไขปัญหาและพร้อมให้การช่วยเหลือต่อไป

โดยมีชาวบ้านในและนอกพื้นที่ ต่างเดินทางให้กำลังใจ นางสาว แพทองทาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี บ้างก็นำสิ่งของเป็นผ้าไหมเมืองสุรินทร์ติดไม้ติดมือมาฝาก เพื่อเป็นขวัญกำลังใจการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐบาล ในครั้งนี้อีกด้วย

ในขณะเดี่ยวกันผู้สื่อข่าวได้พูดคุยสอบถาม นางทองสุข โสระทอน อายุ 65 บ้านสกล หมู่ที่1 ตำบลตะเคียน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ (ชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดนกัมพูชา) เล่าว่า รู้สึกอบอุ่นใจที่ทางนายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางมาตรวจเยี่ยมพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา ในพื้นที่บ้านสกลแห่งนี้ เรื่องหวาดระแวงการสู้รบยังมีความหวาดระแวงกลัวอยู่บ้าง แต่ก็เคยผ่านสถานการณ์ร้ายแรงจากปี 2554 ที่มีการสู้รบและมีการยิงลูกระเบิดจำนวนหลายลูก ซึ่งสถานการณ์ตอนนั้นชาวบ้านต่างวิ่งเข้าที่หลบภัยบังเก้อที่อยู่ในหมู่บ้านซึ่งปีนั้นนับว่าโดนหนักพอสมควรจากผลกระทบเวลากลางคืนจะมองเป็นแสงไฟของลูกกระสุนปืนใหญ่ สิ่งที่ตนเองหวาดกลัวที่สุดก็คือ กลัวชาวบ้านจะเดือดร้อนและมีคนได้รับอันตรายจากการยิงปะทะ อยากฝากไปถึงชาวบ้านด้วยกันให้กำลังใจต่อสู้ยืนหยัดไปด้วยกัน เรารักประเทศรักชาติ เราอย่าให้ใครมาย่ำยี่เราได้