วันที่ 11 มิถุนายน 2568 เวลา 09.30 น. ที่ด่านพรมแดนนครพนม สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน) บริเวณหน้าอาคารศุลกากร พลเรือตรีณรงค์ เอมดี ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่นาโขง (ผบ.นรข.) พันเอกบุนเลิด  บุบผาวัน หัวหน้าการทหารกองบัญชาการทหาร แขวงคำม่วน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (หน.การทหาร กบช. ข.คำม่วน สปป.ลาว) ร่วมเป็นประธานเปิดการลาดตระเวนทางน้ำไทย-ลาว โดยมี พันเอกศิวดล  ยาคล้าย ผู้บังคับการกองบังคับการควบคุมที่ 1 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี (ผบ.ควบคุม 1 กกลฯ) และ ผู้อำนวยการส่วนอำนวยการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 24 (ผอ.ส่วนอำนวยการ นบ.ยส.24) พร้อมด้วยหน่วยงานด้านความมั่นคง ได้แก่ ตำรวจตระเวนชายแดนในพื้นที่ ตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ทหารพราน และ ฝ่ายปกครอง  ร่วมในพิธี  

การลาดตระเวนร่วมตามลำแม่น้ำโขงไทย- ลาว เกิดขึ้นจากชุดประสานงานประจำพื้นที่ของทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งได้ร่วมกันวางแผนและกรอบแนวทางตามลำดับขั้น โดยได้มีการลาดตระเวนร่วมไทย-ลาว (จังหวัดนครพนม-แขวงคำม่วน) ซึ่งเป็นการผนึกกำลังในการสกัดกั้นและการกระทำผิดกฎหมายตามแนวชายแดนร่วมกัน ตลอดจนสร้างความมั่นคงและความเชื่อมั่นระหว่างกัน ซึ่งจะนำไปสู่สันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองทั้ง 2 ประเทศในระยะยาว 

โดยทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันจัดตั้งการลาดตระเวนทางน้ำ จุดประสงค์เพื่อสกัดกั้น กลั่นกรอง อาชญากรรมข้ามชาติ เพื่อให้ประชาชนทั้ง 2 ประเทศได้ทำงานร่วมกัน ร่วมพัฒนาชีวิตการเป็นอยู่ให้ดีขึ้น พบปะแลกเปลี่ยนสร้างความสนิทสนม สร้างสัมพันธ์ไทย-ลาว ให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น รวมถึงการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในพื้นที่ร่วมกัน

 โดยหลังจากจบภารกิจลาดตระเวนร่วมกัน ทั้งฝั่งทหารไทย และ ทหารลาว ได้จับมือและร่ำลากันกลางแม่น้ำโขง ถือเป็นภาพประวัติศาสตร์ที่ทั้งสองประเทศ อยู่ร่วมกันด้วยความสงบสุข

ช่วงก่อนลาดตระเวนทางน้ำไทย-ลาว พลโทณรงค์  สวนแก้ว ผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 2 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร  (ผอ.ศปป.2 กอ.รมน.) พร้อมคณะได้ร่วมในการลาดตระเวนทางน้ำในครั้งนี้ด้วย ซึ่งอดีตท่านเคยเป็นผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรีมาก่อน และในวันดังกล่าว ศปป.2 กอ.รมน. ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดนครพนม เพื่อรับฟังรายงานจากหน่วยงานที่ขึ้นตรง เพื่อนำข้อมูลไปศึกษา พัฒนา ต่อยอด และแก้ไขต่อไป

พลโทณรงค์  สวนแก้ว ผอ.ศปป.2 กอ.รมน. ให้สัมภาษณ์ต่อผู้สื่อข่าว ภายหลังจากการลาดตระเวนทางน้ำร่วมไทย-ลาว ว่า จังหวัดนครพนมเป็นพื้นที่ดูแลของ นรข. โดยกองกำลังสุรศักดิ์มนตรีได้จัดกิจกรรมนี้ขึ้นมา เกิดขึ้นจากความร่วมมือตามแนวชายแดนของทั้งสองประเทศ  ซึ่งผลการปฏิบัติการในวันนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทุกส่วนมีความเข้าใจถึงภัยคุกคามภายนอกมีหลายปัจจัย ในฐานะกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) จึงได้ลงพื้นที่ เพื่อทำงานร่วมกันในพื้นที่

ด้าน พลเรือตรีณรงค์ เอมดี ผบ.นรข.กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งสองฝ่ายมีความเห็นว่าจะมีการลาดตระเวนทางน้ำร่วมกันในทุก3 เดือนต่อครั้ง และจัดการประชุมพบปะแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร 6 เดือนต่อครั้ง โดยผลัดเปลี่ยนกันเป็นเจ้าภาพ ทั้งเห็นควรประสานงานร่วมมือ แลกเปลี่ยน ข้อมูล ข่าวสาร เครือข่าย เป้าหมายยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ มีข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับผู้ค้ายาเสพติดที่เป็นคนไทย หลบหนีคดีเข้าไปอยู่พื้นที่ของ สปป.ลาว โดยทางการลาว อาทิ ทหาร ตำรวจ และผู้นำในชุมชน ได้สืบหาบุคคลต่างด้าวที่เข้ามาอาศัยอยู่โดยผิดกฎหมาย พร้อมทั้งให้ประชาชนร่วมชี้เบาะแส เนื่องจากบุคคลที่ทางการไทยต้องการตัว ล้วนมีรางวัลนำจับทั้งสิ้น แม้ทั้งสองประเทศไม่มีกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนซึ่งกันและกัน แต่มีกฎหมายหลบหนีเข้าเมือง ที่สามารถจับกุมและผลักดันกลับประเทศไทยได้ทันที