วันที่ 25 มิถุนายน 2568 นายสำรวย อินพิทักษ์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว หรือเขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์  เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีการประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการชลประทานแบบมีส่วนร่วม ในรูปแบบคณะกรรมการจัดการชลประทาน (Mernorandum of Understanding : MOU for JMC) โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา โดยปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำลำลำปาว เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2568 นั้น มีปริมาณน้ำอยู่ที่ 879.25 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 48.41 % ของความจุที่ระดับเก็บกัก เป็นปริมาณน้ำใช้การ 779.25 ซึ่งมีปริมาณน้ำเพียงพอต่อการบริหารจัดการน้ำฤดูฝน ปี 2568

โดยการส่งน้ำชลประทานเสริมฝน และได้พิจารณาเห็นชอบร่วมกันในแนวทางการจัดการน้ำในช่วงดูฝน ปี 2568 ให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำต้นทุน และมาตรการการบริหารจัดการน้ำฤดูฝนตามสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ได้นำเสนอและคณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามนโยบายดังกล่าว จึงมีมติในการบริหารจัดการน้ำฤดูฝน ปี 2568 ดังนี้

กำหนดพื้นที่ส่งเสริมการเพาะปลูกพืชฤดูฝน ปี 2568 ในพื้นที่ 306,963 ไร่ ถือว่าเต็มพื้นที่ โดยการเพาะปลูกใช้น้ำฝนเป็นหลัก ส่วนน้ำชลประทานจะเป็นการส่งเสริมน้ำฝน ทั้งนี้ทางโครงการฯได้เริ่มส่งน้ำคลองส่งน้ำสายใหญ่ทั้งสองสาย เพื่อการเกษตรในเขตชลประทานตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป และจะสิ้นสุดการส่งน้ำประมาณวันที่ 31 ตุลาคม 2568 ซึ่งจะมีการประกาศวันหยุดส่งน้ำให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง

นายสำรวย กล่าวต่อว่า ในช่วงนี้จึงขอความร่วมมือจากอปท. และเกษตรกรผู้ใช้น้ำชลประทาน ได้ดำเนินการทำความสะอาดดูคลองส่งน้ำในส่วนที่รับผิดชอบ ตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไปเพื่อให้สามารถรับน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดฤดูกาล พร้อมขอให้ผู้ใช้น้ำทุกภาคส่วน ใช้น้ำอย่างประหยัด คุ้มค่า และแบ่งปัน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ทั่วถึง เพียงพอ และเกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งนี้สามารถติดตามข้อมูลข่าวสาร สถานการณ์น้ำของอ่างเก็บน้ำลำปาว ได้ที่เว็ปไซต์ http://ridceo.rid.go.th/karasin/lampao หรือทาง Facebook โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว สำนักงานขลประทานที่ 6 หรือติดต่อที่ฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 1-9 ในพื้นที่

นายสำรวย กล่าวอีกว่า ในช่วงฤดูฝนนี้ทางโครงการฯได้มีการประสานงานร่วมกับสถานีอุตุนิยมวิทยากาฬสินธุ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง เพื่อวิเคราะห์ข้อมูล และติดตามสถานการณ์ทุกวัน เพื่อที่จะนำไปบริหารจัดการน้ำในเขื่อนลำปาวให้เกิดผลผระทบน้อยที่สุดและให้เกิดประสิทธิภาพอย่างสูงสุดต่อไป

อย่างไรก็ปัจจุบันโครงการฯได้ระบายน้ำลงลำน้ำปาวผ่านอาคารระบายน้ำ และระบายน้ำผ่านอาคารผันน้ำ หรือสริงเวย์เฉลี่ยวันละ 7.27 ล้านลบ.ม.ไหลเข้าสู่แม่น้ำชี เพื่อช่วยเหลือพื้นที่ด้านท้ายใน จ.ร้อยเอ็ด จ.ยโสธร และ จ.อุบลราชธานี ส่งน้ำเข้าระบบคลองส่งน้ำวันนี้ 0.45 ล้าน ลบ.ม.และจะเพิ่มปริมาณส่งน้ำแบบขั้นบันไดจนเต็มประสิทธิภาพของคลองส่งน้ำ ทั้งนี้หากรวมทั้งการช่วยเหลือ ด้านอุปโภค บริโภค ประปา อุตสาหกรรม และระเหยปัจจุบันจะมีปริมาณน้ำออกจากอ่างเฉลี่ยทั้งหมดวันละ 8.44 ล้าน ลบ.ม.